ฟิลเลอร์ ปรับรูปหน้า

Filler กับการปรับรูปหน้า จุดไหนควรฉีด และเลือกยังไงให้ปลอดภัย

Contents hide

ฟิลเลอร์ อีกหนึ่งทางเลือกในการปรับรูปหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด ตัวช่วยด้านความงามที่ครอบคลุมทั้งใบหน้า สามารถฉีดได้หลายจุดไม่ว่าจะเป็นฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ร่องแก้ม ขมับ คาง หรือแม้แต่ริมฝีปาก ซึ่งจุดเด่นในด้านนี้ทำให้หลายคนเกิดความกังวลในเรื่องของการเลือกตำแหน่งฉีดเพื่อปรับรูปหน้าว่าจุดไหนควรฉีด และจะเลือกยังไงให้ปลอดภัย

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ให้ครบทุกมิติ ทั้งด้านการเตรียมตัว จุดที่ควรฉีด และคำแนะนำสำหรับการตัดสินใจ เพื่อให้คุณมั่นใจว่าผลลัพธ์ที่ได้จะสวยงามและปลอดภัยในระยะยาว ว่าแล้วก็ไปดูกันเลย

ฟิลเลอร์คืออะไร?

ฟิลเลอร์ (Filler) คือสารเติมเต็มชนิดหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ในวงการความงามเพื่อแก้ไขปัญหาใบหน้าที่ขาดสมดุล เพิ่มความเต่งตึง และช่วยลดเลือนริ้วรอย โดยส่วนใหญ่ฟิลเลอร์ที่นิยมใช้ในปัจจุบันคือกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid: HA) ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่พบได้ในร่างกายมนุษย์ มีคุณสมบัติช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน โดยคุณสมบัติของฟิลเลอร์ที่ดี ได้แก่

  1. ปลอดภัยและสามารถสลายไปตามธรรมชาติภายใน 6-24 เดือน โดยไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย
  2. ฟิลเลอร์ถูกออกแบบมาให้มีความหนืดและความยืดหยุ่นแตกต่างกัน เพื่อให้เหมาะสมกับตำแหน่งที่ฉีด เช่น บริเวณแก้ม ริมฝีปาก หรือใต้ตา
  3. ฟิลเลอร์ช่วยเพิ่มวอลุ่มให้กับใบหน้า เช่น เติมร่องแก้มที่ลึก เติมริมฝีปากให้อวบอิ่ม หรือปรับกรอบหน้าให้ชัดเจน

ใครบ้างที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์

การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ตอบโจทย์สำหรับคนหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาผิวที่เกิดจากวัย หรือการปรับรูปหน้าให้ได้ตามความต้องการของแต่ละบุคคล มาดูกันว่าใครบ้างที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์

ผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาร่องลึกหรือความหย่อนคล้อย

ผู้ที่มีปัญหาร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก หรือใต้ตาลึก เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มบริเวณที่ขาดวอลลุ่ม ด้วยคุณสมบัติของฟิลเลอร์ที่สามารถเก็บกักน้ำได้ดี จะช่วยให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยได้

ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าโดยไม่ผ่าตัด

การฉีดฟิลเลอร์เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า เช่น เพิ่มมิติบริเวณคาง เสริมโหนกแก้ม หรือเติมเต็มหน้าผาก เพื่อให้ใบหน้าดูสมส่วนมากขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ทำให้เกิดแผลเป็น และไม่ต้องพักฟื้นนาน อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการอีกด้วย

ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูความอ่อนเยาว์

ฟิลเลอร์แก้ปัญหาผิวแห้งกร้านและไม่สดใสได้เป็นอย่างดี จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ การฉีดฟิลเลอร์ในชั้นผิวหนังลึกจะช่วยคืนความชุ่มชื้นและยืดหยุ่นให้แก่ผิว ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ผู้ที่ต้องการเพิ่มความอวบอิ่มให้ใบหน้า

สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความอวบอิ่ม เช่น เติมริมฝีปากให้ดูเต็มและมีรูปทรงที่สวยงาม หรือแก้ปัญหาแก้มตอบ การฉีดฟิลเลอร์สามารถช่วยเพิ่มวอลลุ่มในบริเวณเหล่านี้ได้

ผู้ที่มีปัญหาเฉพาะจุด

ฟิลเลอร์สามารถใช้แก้ไขปัญหาเฉพาะจุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น รอยแผลเป็น รอยบุ๋ม หรือบริเวณที่ไม่สมดุลของใบหน้า โดยให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและปลอดภัย

จุดไหนที่ควรฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปหน้า?

การฉีดฟิลเลอร์เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยปรับรูปหน้าให้สมส่วนและตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยฟิลเลอร์สามารถใช้เติมเต็มในจุดต่างๆ บนใบหน้าเพื่อสร้างความสมดุลและความอ่อนเยาว์ มาดูกันว่าจุดฉีดฟิลเลอร์จุดไหนบ้างที่ได้รับความนิยมและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ร่องใต้ตา

ร่องใต้ตาเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้ที่มีอาการเหนื่อยล้าหรือมีอายุมากขึ้น ทำให้ใบหน้าดูโทรมหรือแก่ก่อนวัย การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยเติมเต็มร่องลึกและลดความหมองคล้ำใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูสดใสและอ่อนวัยขึ้นทันที

ร่องแก้ม

ร่องแก้มที่ลึกอาจทำให้ใบหน้าดูเศร้าหรืออ่อนล้า การฟิลเลอร์ร่องแก้มจะช่วยยกกระชับและเติมเต็มร่องลึก ทำให้ใบหน้าดูสดใสและอ่อนวัยมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยปรับสมดุลของใบหน้าให้ดูมีมิติอีกด้วย

คาง

คางเป็นจุดสำคัญที่ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วนและมีความคมชัด การฉีดฟิลเลอร์คางเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความยาวหรือปรับรูปคางให้รับกับโครงหน้า ทำให้หน้าเรียวและดูสมดุลมากยิ่งขึ้น

ริมฝีปาก

ริมฝีปากเป็นจุดที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้ใบหน้าได้อย่างชัดเจน และเป็นจุดฉีดฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมสูงมาก การฉีดฟิลเลอร์ริมฝีปากเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความอวบอิ่ม หรือปรับรูปทรงของริมฝีปากให้ดูชัดเจนขึ้น การเลือกฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นและให้ความชุ่มชื้นสูงจะช่วยให้ริมฝีปากดูสวยเป็นธรรมชาติ

วิธีเลือกฟิลเลอร์และคลินิกให้ปลอดภัย

การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ต้องใช้ความระมัดระวังทั้งในการเลือกฟิลเลอร์และคลินิกที่ให้บริการ เพื่อให้มั่นใจว่าผลลัพธ์จะออกมาสวยงามและปลอดภัย มาดูกันว่าควรพิจารณาเรื่องใดบ้าง

ตรวจสอบฟิลเลอร์ที่ใช้

ฟิลเลอร์ที่ปลอดภัยต้องได้รับการรับรองจากองค์กรที่เกี่ยวข้อง เช่น อย. (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) ในประเทศไทย สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ หากเกิดปัญหาสามารถใช้เอนไซม์ Hyaluronidase ในการสลายฟิลเลอร์ได้ทันที อย่าลืมขอให้คลินิกแสดงบรรจุภัณฑ์และฉลากของฟิลเลอร์ก่อนทำเพื่อความมั่นใจ

เลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

การฉีดฟิลเลอร์ต้องอาศัยทักษะและความรู้ความชำนาญเฉพาะด้าน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะสามารถวิเคราะห์โครงหน้าและวางแผนการฉีดได้อย่างแม่นยำ รวมถึงสามารถจัดการกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างปลอดภัย ผู้เข้ารับบริการควรตรวจสอบประวัติและประสบการณ์ของแพทย์ รวมถึงรีวิวจากผู้ใช้บริการก่อนตัดสินใจ

เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน

คลินิกที่ได้มาตรฐานควรมีใบอนุญาตประกอบกิจการจากกระทรวงสาธารณสุข และมีอุปกรณ์ที่สะอาด ปลอดเชื้อ อีกหนึ่งเคล็ดลับคือแนะนำให้เลือกคลินิกที่มีชื่อเสียงและรีวิวแน่นๆ จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความมั่นใจในผลลัพธ์ได้อีกหนึ่งระดับ

ปรึกษาแพทย์ก่อนทำ

ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับความต้องการและปัญหาผิว โดยแพทย์จะช่วยประเมินความเหมาะสมของหัตถการและฟิลเลอร์ที่จะใช้ พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลหลังฉีด ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการทำให้ผลลัพธ์ออกมาสมบูรณ์แบบ

การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์

การดูแลตัวเองหลังการฉีดฟิลเลอร์เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามและลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาต่างๆ โดยการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์มีดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดนวดบริเวณที่ฉีดเพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์และลดโอกาสการติดเชื้อเป็นเวลาอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง
  • ควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น ซาวน่า หรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากในช่วง 1-2 วันหลังฉีด เนื่องจากความร้อนอาจส่งผลต่อการคงตัวของฟิลเลอร์ได้
  • งดแต่งหน้าหรือใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์เป็นเวลา 24 ชั่วโมง เพื่อลดความเสี่ยงของการระคายเคืองหรือการติดเชื้อ
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมากในช่วง 1-2 วันหลังฉีด เพื่อป้องกันการบวมและการกระทบกระเทือนในบริเวณที่ฉีด
  • การดื่มน้ำมากๆ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของฟิลเลอร์ ให้สามารถทำงานได้ดีขึ้นเพราะมีความชุ่มชื้นเพียงพอในร่างกาย
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหารที่มีรสจัดในช่วง 24 ชั่วโมงแรก เพื่อลดโอกาสการเกิดอาการบวมแดง
  • หากพบอาการผิดปกติ เช่น บวมมากเกินไป รอยช้ำที่ลุกลาม หรืออาการปวดที่รุนแรง ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที

ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน

ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน เป็นคำถามที่ถูกถามเข้ามาเยอะมากที่สุด และคำตอบคือฟิลเลอร์มีระยะเวลาการคงตัวที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทของฟิลเลอร์ที่ใช้ โดยทั่วไปฟิลเลอร์ที่มีสาร Hyaluronic Acid (HA) จะคงอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด ปริมาณที่ใช้ และการดูแลตัวเองของผู้รับบริการและจะค่อยๆ สลายตัวไปตามธรรมชาติโดยไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย

ข้อควรระวังในการฉีดฟิลเลอร์

  • การเกิดอาการบวมแดงหรือช้ำในบริเวณที่ฉีด อาการเหล่านี้พบได้บ่อยหลังการฉีดฟิลเลอร์ แต่จะค่อยๆ ลดลงภายในไม่กี่วัน หากอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์
  • การติดเชื้อในบริเวณที่ฉีด แม้จะเกิดขึ้นได้น้อย แต่การติดเชื้อเป็นปัญหาร้ายแรงที่ต้องได้รับการรักษาทันที เพื่อป้องกันการลุกลาม
  • หากฟิลเลอร์ไม่ได้รับการฉีดอย่างถูกวิธี อาจเกิดการเคลื่อนที่และทำให้ใบหน้าดูผิดรูปได้
  • การใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้คุณภาพหรือใช้เทคนิคการฉีดที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดก้อนแข็งหรือผิวเป็นคลื่น
  • หากฟิลเลอร์ถูกฉีดเข้าไปในหลอดเลือด อาจทำให้เกิดการอุดตัน ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาที่ร้ายแรง เช่น การสูญเสียการมองเห็นหรือเนื้อเยื่อเสียหายได้
  • แม้จะพบได้น้อย แต่บางคนอาจมีอาการแพ้ฟิลเลอร์ ซึ่งอาจแสดงออกเป็นผื่นแดง คัน หรือบวมรุนแรง
  • การใช้ฟิลเลอร์ปลอม หรือฟิลเลอร์ที่ไม่ได้รับการรับรอง อาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพได้

ข้อสรุป

การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาผิวและปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์และสมส่วนได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงถือเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน แต่ความปลอดภัยก็ต้องมาก่อนเสมอ ดังนั้น ควรให้ความสำคัญเกี่ยวกับการเลือกฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานและเลือกคลินิกที่ได้รับการรับรอง เพื่อลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียง เช่น การติดเชื้อ ฟิลเลอร์เคลื่อน หรือการอุดตันของเส้นเลือด และหลังฉีดควรดูแลตัวเองตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด หากเกิดปัญหาควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที การศึกษาข้อมูลและเตรียมตัวให้พร้อมจะช่วยให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่น่าพอใจและปลอดภัยที่สุด