รีวิวการสร้างกล้ามท้องด้วย HIFEM ฉบับคนออกกำลังกายหนัก สร้าง Six Pack
สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าตอนนี้ใครกำลังมีปัญหาว่าออกกำลังกายหนักขึ้น ใช้เวลานานขึ้น แต่ก็ยังไม่พอใจกับรูปร่างและสัดส่วนของตัวเองอยู่บ้าง วันนี้หมอมีเคสตัวอย่าง ซึ่งเป็นคนไข้ของทาง AYA Clinic ที่หมอเป็นคนดูแลเคสนี้อยู่มาเล่าให้ฟังค่ะ
คุณเป็ดเป็นอีกคนที่มีวินัยในการดูแลตัวเอง เข้ายิมออกกำลังกายอยู่เสมอ และยังควบคุมอาหารควบคู่ไปด้วย ช่วงหลังคุณเป็ดออกกำลังกายให้หนักขึ้นอีก เพื่อสร้าง SIX PACK ต้องการสร้างกล้ามท้อง เพราะอยากมีกล้ามท้องให้เห็นเป็นลอนไวๆ แต่ที่ผลลัพธ์จากการออกกำลังกายที่ผ่านมายังไม่ค่อยน่าพอใจเท่าไหร่
เข้ายิม เวทเทรนนิ่งสัปดาห์ละ 3-4 วัน และควบคุมอาหาร
ในความเห็นของหมอ การเลือกวิธีการออกกำลังกายและการควบคุมอาหารเป็นวิธีการสร้างกล้ามเนื้อที่ดี ซึ่งทุกคนที่อยากมีลอนกล้ามเนื้อสวยๆ ควรทำอยู่แล้ว แต่คนไข้บางคนด้วยปัจจัยบางอย่างเช่น อายุที่มากขึ้น ระบบเผาผลาญในร่างกายไม่ดีเหมือนเดิม การออกกำลังกายหนักขึ้นก็ยังไม่เห็นผลชัดเจนเท่าไหร่นัก เนื่องจากยังมีไขมันสะสมอยู่มาก และกระบวนการสร้างเซลล์ใหม่ๆลดลง รวมถึงการสร้างเซลล์กล้ามเนื้อใหม่ๆ ที่กระชับและแข็งแรงก็ลดลงด้วย
คุณเป็ดซึ่งมีปัญหาดังกล่าวจึงเข้ามาปรึกษากับหมอเพราะเคยได้ยินเรื่องการกระตุ้นกล้ามเนื้อ สร้างซิคแพ
เพื่อกระชับสัดส่วนและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อให้แข็งแรง โดยไม่ต้องออกกำลังกาย ซึ่งวิธีที่คุณเป็ดพูดถึงเรียกว่า HIFEM นั่นเอง
แพทย์ความงามหลายๆท่าน รวมถึงหมอมักแนะนำการทำ HIFEM ให้กับคนไข้ที่ต้องการสร้างกล้ามท้อง อยากมี SIX PACK อยากแก้ปัญหากล้ามเนื้อหย่อนคล้อย แต่ไม่มีเวลา, ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย หรืออยากเห็นผลไวๆ อย่างเคสของคุณเป็ด
คุณเป็ดเข้ามาทำ HIFEM กับหมออย่างต่อเนื่อง โดยยังออกกำลังกายและควบคุมอาหารควบคู่ไปด้วย ผลลัพธ์ที่ได้ทำให้คุณเป็ดมีกล้ามเนื้อหน้าท้องกระชับ แข็งแรง มีลอนกล้ามท้องสวยๆสมใจ ทำให้ความมั่นใจในรูปร่างของคุณเป็ดคืนกลับมาอีกครั้ง
ทำความรู้จักกับเครื่อง HIFEM
ตอนนี้ทุกคนคงอยากรู้ว่า HIFEM คืออะไรและมันจะปลอดภัยหรือเปล่าใช่มั้ยคะ หมอขออธิบายสั้นๆว่า HIFEM นั้นย่อมาจาก High-Intensity Focused Electromagnetic Field เทคโนโลยีที่ปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าลงไปที่ชั้นกล้ามเนื้อ ให้ไปช่วยกระตุ้นให้กล้ามเนื้อหดและคลายตัวอย่างต่อเนื่อง เลียนแบบกลไกการทำงานของกล้ามเนื้อเหมือนตอนที่เราออกกำลังกายค่ะ ซึ่งการหดเกร็งของกล้ามเนื้อนี้จะเป็นแบบ Supramaximal Contraction ซึ่งมากกว่าตอนที่เราออกกำลังกายแบบปกติเสียอีกนะคะ ผลที่ได้คือจะเกิดการสร้างกล้ามเนื้อขึ้นมาใหม่ทีกระชับและแข็งแรงขึ้น พร้อมช่วยสลายไขมัน และเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานของร่างกายในเวลาเดียวกันด้วย
จริงแล้วเมื่อก่อนนี้ HIFEM จะเป็นนวัตกรรมที่ทางการแพทย์นั้นมาใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือมีปัญหากล้ามเนื้อแยกตัว กล้ามเนื้อหย่อนคล้อย ต่อมาถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพและพลังงานเพิ่มมากขึ้น แพทย์ผิวหนังและความงามจึงนำเทคโนโลยีนี้มาใช้เพื่อช่วยสร้างกล้ามเนื้อ กระชับสัดส่วน ช่วยสร้างกล้ามท้อง สร้าง six pack รวมถึงทำให้บั้นท้ายกระชับ แข็งแรง เหมาะสำหรับคนที่รู้สึกว่าออกกำลังกายแล้วยังเห็นกล้ามเนื้อไม่ชัดหรือไม่ค่อยทันใจ ต้องการให้เห็นลอนกล้ามเนื้อมากขึ้น
HIFEM มีหลักการทำงานอย่างไร
มาถึงตรงนี้ หมอขออธิบายหลักการทำงานของ HIFEM ว่าทำไมจึงช่วยสร้างกล้ามเนื้อได้ทั้งๆที่เรานอนอยู่เฉยๆ อย่างที่บอกไปแล้วว่าหลักการทำงานของ HIFEM นั้นเลียนแบบกลไกของร่างกายตอนออกกำลังกาย ซึ่งกล้ามเนื้อของเราจะหดตัวและคลายตัวอย่างต่อเนื่อง ต่างกันตรงที่ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของ HIFEM ที่ยิงลึกลงไปในชั้นกล้ามเนื้อที่อยู่ใต้ผิวหนังนั้น จะกระตุ้นให้เกิดการหดเกร็งแบบ Supramaximal Contraction ซึ่งมากกว่าการออกกำลังกายแบบปกติ เช่น การทำสควอท การซิทอัพ การครันช์ ในเวลา 30 นาทีที่คนไข้นอนทำอยู่นั้น กล้ามเนื้อจะถูกกระตุ้นให้หดและคลายมากกว่า 36,000 ครั้งเลยทีเดียวค่ะ ทำให้เกิดการสร้างกล้ามเนื้อใหม่ ทำลายกล้ามเนื้อเก่าไปพร้อมกับสลายไขมันไปในตัว ช่วยกระชับสัดส่วน เพิ่มกล้ามเนื้อให้หนาแน่นและแข็งแรง แถมมีขนาดใหญ่กว่าเดิมถึง 25 เปอร์เซนต์ โดยไม่ต้องผ่าตัด หรือออกกำลังกาย
ผลลัพธ์ที่จะได้จากการทำ HIFEM
เราสามารถทำ HIFEM เพื่อสร้างกล้ามเนื้อได้หลายบริเวณนะคะ นอกเหนือจากการสร้างกล้ามท้องหรือสร้าง SIX PACK เราอาจจะอยากทำที่กล้ามแขน ต้นขา น่อง หรือบั้นท้ายก็ได้ เพื่อให้ได้สัดส่วนตามทีที่ต้องการ
รีวิว HIFEM จากคุณเป็ดเป็นสิ่งที่ยืนยันว่า HIFEM นั้นช่วยเรื่องการสร้างกล้ามท้องได้จริง เห็นเป็นลอนกล้ามเนื้อที่สวยงาม ชัดเจน และแข็งแรง นอกจากคุณเป็ดแล้ว จริงๆมีการศึกษาที่ยืนยันถึงประสิทธิภาพของ HIFEM ในวารสารทางการแพทย์มากมาย ตัวอย่างหนึ่งคืองานวิจัยของ Carolyn Jacob ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Pubmed พบว่ามีคนไข้ที่ไม่พอใจในรูปร่างและบั้นท้ายของตัวเอง เมื่อเข้ารับการรักษาด้วย HIFEM ไปสี่ครั้ง รายงานระบุว่าคนไข้รู้สึกกล้ามเนื้อบั้นท้ายตัวเองยกกระชับ แข็งแรงและแน่นขึ้นกว่าเดิม โดยน้ำหนักไม่เปลี่ยนแปลง และไม่เกิดอาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์อีกด้วย
ผลการวิจัยยืนยันว่า HIFEM ช่วยกระชับสัดส่วน ปรับรูปร่างให้สวยงามอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย เห็นผลชัดเจน ไม่เกิดผลข้างเคียง ทำให้คนไข้พึงพอใจและสร้างความมั่นใจให้กับคนไข้มากกยิ่งขึ้น
หมอมีทริคเล็กๆ ที่ช่วยให้การทำ HIFEM เห็นผลได้ชัดเจนขึ้นและเร็วกว่าเดิม และคงผลลัพธ์นั้นให้อยู่นานที่สุด คนไข้ควรดูแลตัวเองตามนี้นะคะ ควรออกกำลังกายควบคู่กับการทำ HIFEM ไปด้วยอย่างสม่ำเสมอ พร้อมกับการควบคุมอาหาร ลดคาร์โบไฮเดรตและอาหารที่มีไขมันสูง แต่เน้นอาหารที่มีโปรตีนเพื่อช่วยสร้างกล้ามเนื้อแทน และที่ขาดไม่ได้คือ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยควรได้วันละ 6-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมและฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังจากการออกกำลังกายและการทำ HIFEM
การทำ HIFEM ให้เห็นผลเร็วและชัดเจน
อย่างที่หมอบอกไปแล้วว่าการดูแลตัวเองหลังทำ HIFEM ก็สำคัญเพื่อให้เห็นผลชัดเจนและเร็วขึ้นค่ะ เหมือนกับวิธีการดูแลตัวเองของคุณเป็ดก็เป็นตัวอย่างได้อย่างดีเลย
การออกกำลังกาย
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอควบคู่ไปด้วยกันกับการทำ HIFEM ช่วยเร่งกระบวนการสร้างกล้ามเนื้อให้เร็วมากยิ่งขึ้นไปอีก
ควบคุมอาหาร
เมื่อเรามีกล้ามเนื้อที่เห็นชัดเจนแล้ว แต่การควบคุมอาหารก็ยังควรต้องทำต่อไปอย่างเคร่งครัด เพื่อลดการเกิดไขมันสะสมขึ้นมาใหม่ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างกล้ามเนื้อด้วย ดังนั้นหมอแนะนำว่าควรเน้นทานอาหารจำพวกโปรตีนให้มากขึ้นเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ และลดอาหารจำพวกแป้งและอาหารที่มีไขมันสูงเพื่อลดการสะสมของไขมัน
พักผ่อนให้เพียงพอ
ร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมน ขณะที่เรากำลังนอนหลับ ซึ่งโกรทฮอร์โมนตัวนี้แหล่ะที่จะช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย รวมถึงเซลล์ของเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อด้วย ดังนั้นเราจึงควรนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
การทำ HIFEM เหมาะสำหรับใครบ้าง
สำหรับการทำ HIFEM นั้นเหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาในการออกกำลังกาย ไม่ชอบออกกำลังกาย หรืออาจจะมีปัญหาสุขภาพที่ทำให้ไม่สามารถออกกำลังกายได้ เช่น เคยประสบอุบัติเหตุ หรือทุพพลภาพ แต่ต้องการมีรูปร่างที่กระชับได้สัดส่วน มีกล้ามเนื้อชัดเจน แข็งแรง ไม่หย่อนคล้อย ต้องการลดไขมันเพื่อรูปร่างและสุขภาพที่ดีขึ้น หมอแนะนำให้ทำ HIFEM เพื่อกระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อ เพิ่มมวลกล้ามเนื้อให้มากขึ้น ทำให้รูปร่างสมส่วน มีกล้ามท้องหรือกล้ามแขน กล้ามขาได้ตามต้องการ
สำหรับคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำอยู่แล้ว ก็สามารถทำ HIFEM ได้ และยิ่งทำให้เห็นผลได้เร็วขึ้นและชัดเจนกว่าคนที่ไม่ออกกำลังกายอีกด้วย
นอกจากนี้ HIFEM ยังเหมาะกับคุณแม่ที่มีที่ยังมีปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อยจากการตั้งครรภ์ เนื่องจากกล้ามเนื้อหน้าท้องยืดขยาย
ส่วนคนที่มีปัญหาปวดหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณหลังส่วนล่างก็เหมาะที่จะทำ HIFEM เช่นเดียวกัน เมื่อกล้ามเนื้อแกนกลางของร่างกายแข็งแรงก็จะทำให้อาการปวดหลังดีขึ้น
แต่คนที่จะทำให้ HIFEM ได้นั้นจะเป็นต้องเป็นคนที่มีดัชนีมวลกายหรือค่า BMI น้อยกว่า 25 และต้องไม่มีโรคประจำตัว ไม่เคยผ่าตัดหัวใจมาก่อนและต้องไม่มีวัตถุโลหะในร่างกาย หมอแนะนำว่าหากใครตัดสินใจทำ HIFEM ควรปรึกษาคุณหมอที่ทำให้ก่อน เพื่อหมอจะได้ประเมินว่าสามารถทำได้หรือไม่ค่ะ
การทำ HIFEM สามารถทำได้บริเวณไหนบ้าง
HIFEM จะช่วยสร้างกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้อง บั้นท้าย สะโพก แขน ต้นขา และน่อง เพื่อให้กล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวกระชับ แข็งแรง ได้สัดส่วนค่ะ
การทำ HIFEM เจ็บไหม มีความรู้สึกตอนทำเป็นอย่างไร
ในระหว่างที่ทำ HIFEM นั้น คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจะเข้าไปกระตุ้นกล้ามเนื้อให้หดเกร็งและคลายตัวเป็นพักๆ แต่ก็ไม่ทำให้เรารู้สึกเจ็บหรือแสบร้อน และไม่ทำให้เกิดแผลด้วยค่ะ แต่บางครั้งอาจจะรู้สึกเมื่อยๆ ได้เล็กน้อยเหมือนกับตอนที่เราออกกำลังกาย เนื่องจากกลไกการทำงานซึ่งเลียนแบบการออกกำลังกายนั่นเอง
การทำ HIFEM ควรทำกี่ครั้ง
การทำ HIFEM ทำครั้งละ 30 นาทีและควรทำสัปดาห์ละ 2 ครั้งอย่างต่อเนื่อง หลังจากการทำ HIFEM คนไข้จะรู้สึกได้ว่ากล้ามเนื้อของตัวเองแน่นขึ้น กระชับขึ้นได้ตั้งแต่ครั้งแรกหรือครั้งที่สองเลยครับ แต่ควรทำอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 4-6 ครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุด และอย่าลืมทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกายและควบคุมอาหารด้วยนะคะ เพื่อจะได้เห็นผลเร็วขึ้น
ลองมาดูรูปคุณเป็ดหลังทำ HIFEM ว่าลอนกล้ามเนื้อของคุณเป็ดสวยและดูแข็งแรงขนาดไหน
ข้อสรุป
สำหรับประสบการณ์การทำ HIFEM ของหมอ ที่ทำให้คนไข้หลายๆ เคส ส่วนใหญ่คนไข้รู้สึกพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ค่อนข้างดี บางคนเห็นความเปลี่ยนแปลงของกล้ามเนื้อได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น มีมวลกล้ามเนื้อมากขึ้น เซลลูไลท์ลดลง รูปร่างกระชับได้สัดส่วน ยิ่งทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร จะยิ่งเห็นได้ชัดว่ากล้ามเนื้อจะเป็นลอนสวยเลยทีเดียว ที่สำคัญคนไข้เกือบทุกคนมีความมั่นใจและพึงพอใจในรูปร่างตัวเองมากขึ้นเยอะเลยค่ะ
