ฉีดแฟตแก้ม ปรับหน้าเรียว ลดแก้มยุ้ยแบบเร่งด่วน
การฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) เป็นที่รู้จักและนิยมกันอย่างกว้างขวาง ด้วยความพิเศษที่สามารถฉีดสลายไขมันได้เฉพาะจุด และที่ยอดฮิตที่สุดเห็นจะเป็นการฉีดเมโสแฟตแก้ม ซึ่งเป็นวิธีฉีดสลายไขมันแก้ม ช่วยลดแก้มปรับใบหน้าให้เรียวเล็ก โครงหน้ามีมิติขึ้น ทำให้ได้รูปหน้าสวยอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งในปัจจุบันการฉีดแฟตแก้ม เพื่อสลายไขมันแก้ม ได้พัฒนาให้เป็นวิธีการสลายไขมันที่มีความปลอดภัยสูง ผลข้างเคียงน้อย ไม่ทิ้งร่องรอยบนใบหน้า ไม่ต้องพักฟื้น และเห็นผลลัพธ์รวดเร็ว ทันตา ทันใจได้จริง
เมโสแฟต (Meso Fat) คืออะไร
เมโสแฟต (Meso Fat) เป็นวิธีฉีดการสลายไขมัน และลดไขมันส่วนเกิน โดยการฉีดสารสกัดที่มาจากธรรมชาติ เพื่อนำตัวยาเข้าสู่ใต้ชั้นไขมัน เฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายที่ต้องการลดไขมัน หรือสลายไขมัน เมื่อฉีดเมโสแฟตเข้าไปแล้วจะช่วยสลายไขมันให้แตกตัวเป็นของเหลว และขับออกทางปัสสาวะ เหงื่อและอุจจาระ ทำให้บริเวณที่ได้รับการฉีดเมโสแฟต กระชับ สัดส่วนเข้ารูปขึ้น โดยสารที่ให้ผลแตกต่างกันและนิยมนำมาฉีด ได้แก่
- แอลคาร์นิทีน (L-carnitine สารสกัดจากถั่วเหลือง ไข่แดงและวิตามินอีกหลายชนิด) มีคุณสมบัติช่วยให้ร่างกายดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น โดยการเปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน เป็นการย่อยสลายไขมันส่วนเกินและเซลลูไลท์ที่สะสมในชั้นไขมันในเวลาเดียวกัน
- เมโสสตาบิล (Mesostabyl) มีคุณสมบัติช่วยลดการเกิดเซลล์ไขมันใหม่และลดคอเลสเตอรอลในชั้นเนื้อเยื่อ
- ไทโรซีน (Tyrosine)มีคุณสมบัติช่วยในการเร่งเผาผลาญไขมันของร่างกายให้ดียิ่งขึ้น
- สารสกัดอาร์ติโชค (Artichoke extract) มีคุณสมบัติช่วยลดการเกิดเซลล์ไขมันใหม่ ลดการสังเคราะห์กรดไขมัน
การเกิดไขมันสะสมบริเวณแก้มเกิดจากอะไร
บริเวณใบหน้าสามารถมีการสะสมของไขมันได้เช่นเดียวกับส่วนอื่นของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณแก้ม หรือบริเวณใต้คางหรือเหนียง โดยการสะสมไขมันแก้มเกิดได้จากสาเหตุ เช่น น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น การรับประทานอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล ของหวานของทอดของมันมาก หรือการดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหรือแอลกอฮอล์มาก ทำให้ใบหน้ากลม มองเห็นแก้มป่อง มีไขมันเยอะ มองเห็นได้เด่นชัด รวมไปถึงการดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน พันธุกรรม หรืออายุที่มากขึ้นที่ทำให้เกิดแก้มหย่อนคล้อยและผิวที่เสื่อมสภาพด้วย
ทั้งนี้วิธีลดแก้ม ทำได้ 2 วิธี คือ แบบธรรมชาติ เช่น การออกกำลังกาย การรับประทานที่ไม่ก่อให้เกิดไขมัน หรือเพิ่มน้ำหนัก วิธีนี้จะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร ความอดทน และมีระเบียบวินัย จึงจะเห็นผลลัพธ์ แต่ผลลัพธ์ก็อาจไม่เป็นที่พอใจของหลายคน ส่วนอีกวิธี คือ แบบเร่งด่วน เช่น ฉีดเมโสแฟตแก้ม ถือเป็นทางลัดที่ให้ผลลัพธ์รวดเร็ว เห็นใบหน้าเข้ารูป เรียว เด่นชัด และการผ่าตัดลดแก้ม แต่วิธีนี้ ต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้น เจ็บตัว และไม่ทันใจ
ฉีดเมโสแฟตแก้ม เหมาะกับใคร ฉีดแล้วดีไหม
แม้การฉีดเมโสแฟต จะช่วยลดไขมันแก้ม แก้ปัญหาแก้มป่องจากไขมัน แก้มย้อย แก้มห้อย แก้มหย่อน ทำให้ใบหน้าเรียวเล็ก โครงหน้าเข้ารูป มีมิติมากขึ้น สร้างความมั่นใจในรูปหน้า และช่วยทำให้ผิวกระชับขึ้น ผิวหน้า ดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ก็มีผู้ที่เหมาะกับการฉีดเมโสแฟต และ ผู้ที่ไม่ควรฉีดเมโสแฟต ดังนี้
คนที่เหมาะกับการฉีดเมโสแฟต
ผู้ที่ต้องการสลายไขมันเฉพาะจุด ลดแก้ม ลดเหนียงใต้คาง
- ผู้ที่ต้องการลดไขมันแก้มเพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวเข้ารูปวีเชฟ มีกรอบหน้าชัดขึ้น
- ผู้ที่ต้องการสลายไขมันแก้มให้เห็นผลลัพธ์รวดเร็ว ไม่ต้องพักฟื้นจากการผ่าตัดหรือดูดไขมัน เพราะมีเวลาจำกัด
- ผู้ที่ต้องการลดไขมันแก้มแล้วไม่ยุ่งยากในการดูแลตัวเองภายหลังทำ
- ผู้ที่ไม่สามารถลดไขมันแก้มได้ แม้ออกกำลังกายหรือคุมอาหารแล้ว
คนที่ไม่ควรฉีดเมโสแฟต
- ผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี
- ผู้ที่มีครรภ์ หรืออยู่ในระหว่างให้นมบุตร
- ผู้ที่มีการใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคระบบหลอดเลือดผิดปกติในสมอง เส้นเลือดสมองตีบ หรืออุดตัน
- ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- ผู้ที่มีการเต้นของหัวใจผิดจังหวะ มีโรคหัวใจ หรืออยู่ในระหว่างการรักษาโรคมะเร็ง
- ผู้ที่มีโรคเบาหวาน ต้องฉีดอินซูลินเป็นประจำ และการรักษาด้วยยาหลายชนิด
ฉีดแฟตแก้ม ใช้ปริมาณยาในการฉีดกี่ CC
การฉีดแฟตแก้มจะใช้ปริมาณมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับการคำนวณและวินิจฉัยของแพทย์ ซึ่งจะแนะนำปริมาณที่เหมาะสมให้แต่ละคนแตกต่างกันไป โดยทั่วไปจะ เริ่มในปริมาณ 3-5 CC ของแก้มแต่ละข้าง โดยสามารถฉีดได้หลายครั้ง หรือฉีดเป็นคอร์ส เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ตามที่ผู้รับบริการต้องการ โดยหลังการฉีดเมโสแฟตลดแก้ม ไขมันจะเริ่มสลายตัว 10-15% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด และเห็นผลชัดเจนใน 1-3 สัปดาห์ ซึ่งผู้รับการฉีดเมโสแฟตแก้มจะสามารถสังเกตเห็นได้ว่าบริเวณที่ฉีดเล็กลง ไขมันแก้มลดลง เห็นใบหน้าเข้ารูป หน้าเรียววีเชฟ มากขึ้นเรื่อยๆ
ฉีดแฟตแก้มเจ็บไหม ?
เมโสแฟต เป็นวิธีการที่ใช้เข็มฉีดยา ผู้รับบริการจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยขณะฉีดเช่นเดียวกับการฉีดยาทั่วไป และรู้สึกได้เมื่อยาเดินเข้าสู่ผิวหนัง แต่สามารถบรรเทาอาการเจ็บหรือบวมเล็กน้อยภายหลัง ฉีดเมโสแฟตด้วยการประคบเย็น จะทำให้รู้สึกดีขึ้นและหายบวมหรืออักเสบได้ในเวลา 3-4 ชั่วโมง
ฉีดแฟตแก้มจะทำให้บวมกี่วัน ?
โดยปกติ ภายหลังฉีดเมโสแฟตจะมีอาการบวมจากปริมาณยาที่เข้าสู่ผิวหนัง จะสามารถหายไปใน 3-4 ชั่วโมง ไม่เป็นอันตราย ไม่ทิ้งร่องร่อยอักเสบ ไม่ต้องพักฟื้น ผู้รับบริการสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และอาการบวมก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลอีกด้วยในบางคนอาจจะมีเขียวง่าย บวมง่าย มากน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล และวิธีการดูแลตัวเองอีกด้วย
ฉีดแฟตแก้มจะเห็นผลภายในกี่วัน
ผู้รับบริการสามารถเห็นผลลัพธ์จากการฉีดเมโสแฟตแก้มได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด และจะชัดเจนใน 2-3 สัปดาห์ โดยมีการสลายไขมันเกิดขึ้นประมาณ 10-15% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองและปริมาณไขมันของแต่ละคน และหากต้องการเห็นผลลัพธ์เร็วขึ้น ควรดื่มน้ำในปริมาณเพิ่มมากขึ้น เพื่อช่วยให้ไขมันที่สลายถูกขับออกจากร่างกาย ทางปัสสาวะ และเหงื่อ ได้มากขึ้น
ฉีดแฟตแก้มจะอยู่ได้นานกี่เดือน
การฉีดเมโสแฟต ทั้งฉีดเมโสแฟตแก้ม หรือเมโสแฟตเหนียง เห็นผลลัพธ์ได้นาน 2-3 เดือน ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันเดิมที่มี การปรับเปลี่ยนพฤติการบางอย่างในการดูแลตัวเอง การออกกำลังกายที่สม่ำเสมอ และการหลีกเลี่ยงพฤติการการรับประทานอาหารที่ก่อให้เกิดการสะสมของไขมันใหม่ เช่น อาหารมัน อาหารทอด ซึ่งจะทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานมากขึ้น
ฉีดแฟตแก้มต้องเตรียมตัวอย่างไร
คนที่สนใจต้องการฉีดแฟตแก้ม ควรมีการเตรียมตัว ดังนี้
- การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดเมโสแฟต ตัวยาที่ใช้เมโสแฟต ข้อดีข้อเสีย และการดูแลตัวเองหลังฉีดเมโสแฟต
- เลือกคลินิก หรือสถานพยาบาล ที่ได้มาตรฐาน และเชื่อถือได้
- ปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจประเมินใบหน้าและจุดที่ต้องการฉีด พร้อมแจ้งประวัติทางการแพทย์ และโรคประจำตัว
- งดยาในกลุ่มแก้ปวด เช่น แอสไพริน NSAIDs และ Dipyridamole ประมาณ 48 ชั่วโมง ก่อนเข้ารับการฉีดเมโสแฟต
หลังฉีดแฟตแก้มดูแลตัวเองอย่างไร
หลังจากเข้ารับการสลายไขมันด้วยวิธีเมโสแฟตแล้ว ผู้รับบริการควรปฏิบัติและดูแลตัวเอง ดังนี้
- ดื่มน้ำอย่างน้อย 1-2 ลิตรต่อวัน เพื่อช่วยให้ไขมันขับออกทางปัสสาวะได้มากขึ้น
- งดทาครีมบริเวณรอยเข็มหลังฉีด 24 ชั่วโมง และหากเกิดรอยแดง รอยช้ำจากเข็ม สามารถประคบเย็นได้ใน 48 ชั่วโมงแรกหลังฉีดเมโสแฟต
- รับประทานยาลดบวม หรือยาแก้อักเสบ หรือแก้ปวดตามแพทย์สั่งได้เมื่อมีอาการ
- งดอบซาวน่า เลเซอร์ หรือการนวดเพื่อไม่ให้เกิดการบวมช้ำมากขึ้น และลดการฟกช้ำให้น้อยลง อย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังฉีดเมโสแฟต
- งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เพื่อลดอาการบวมซ้ำ อย่างน้อย 3 วันหลังฉีดเมโสแฟต
- หากต้องมีการฉีดซ้ำเพื่อให้ผลลัพธ์ชัดเจน ควรมีระยะห่างอย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังฉีดเมโสแฟต
- ควรออกกำลังกาย เพื่อกระชับกล้ามเนื้อ และควบคุมน้ำหนักไม่ให้เพิ่ม เพื่อผลดีในระยะยาว
- ควรปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เพื่อป้องกันไม่ให้ไขมันกลับมาสะสมใหม่
- ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อผลลัพธ์ที่ยาวนานขึ้น
ฉีดแฟตแก้มมีข้อดีอย่างไร
- การฉีดเมโสแฟตไม่ต้องพักฟื้น
- การฉีดเมโสแฟต มีอาการบวมช้ำน้อย แต่ยาบางชนิดอาจทำให้บวมได้ ใน 1-3 วันแรก
- การฉีดเมโสแฟตใช้ระยะเวลาในการฉีดไม่นาน
- หลังฉีดเมโสแฟต สามารถล้างหน้าและแต่งหน้าได้ตามปกติ
- หลังฉีดเมโสแฟต สามารถเห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็วภายใน 1- 2 สัปดาห์
ข้อสรุป
การฉีดเมโสแฟตแก้ม เป็นวิธีการปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กลง ชัดเจนได้จริง เพราะฉีดเมโสแฟต ช่วยสลายไขมัน และลดไขมันเฉพาะจุด ไม่ยุ่งยากในการทำ ปลอดภัยมีผลข้างเคียงน้อย จึงเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสลายไขมันที่มีการสะสมไม่มากเกินไป ไม่ค่อยมีเวลา ไม่ต้องการผ่าตัด และไม่ต้องการดูดไขมัน ซึ่งการฉีดเมโสแฟต สะดวก ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องดูแลตัวเองยุ่งยากเช่นการผ่าตัดหรือดูดไขมัน และที่สำคัญภายหลังฉีดเมโสแฟตแก้ม สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้และแต่งหน้าได้ตามปกติ ถือเป็นการลงทุนด้านความงามที่คุ้มค่า คุ้มราคา คุ้มเวลา อย่างแท้จริง