Contents hide
1 ร้อยไหม 8D ไหมล็อค ยกกระชับใบหน้าคุณสมบัติไหมชนิด BIDIRECTION 360 องศา

ร้อยไหม 8D ไหมล็อค ยกกระชับใบหน้าคุณสมบัติไหมชนิด BIDIRECTION 360 องศา

ร้อยไหม

การร้อยไหมเป็นวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับและปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก เนื่องจากมีความปลอดภัย ไม่ต้องผ่าตัดดึงหน้า ไม่เสียเวลาพักฟื้น ที่สำคัญเห็นผลได้ทันที ยิ่งในปัจจุบันมีเทคนิคและไหมที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผลลัพธ์ที่ได้ชัดเจนและอยู่ได้ยาวนานมากขึ้น การร้อยไหมด้วยไหมล็อค 8D ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย 

การร้อยไหม คืออะไร

การร้อยไหม หรือ Fine Thread Lifting (FTL) คือ นวัตกรรมเพื่อยกกระชับใบหน้าและปรับรูปหน้าเพื่อจัดการกับปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยและริ้วรอยต่างๆ เช่น รอยตีนกา รอยย่นจากการขมวดคิ้ว หางตาตก กรอบหน้าไม่ชัด ร่องแก้มเยอะ หน้าบาน ฯลฯ ด้วยเทคนิคการร้อยไหมละลายไปใต้ผิวหนังเพื่อดึงผิวหนังบริเวณที่ร้อยไหมนั้นให้ยกกระชับขึ้น ทำให้หน้าเรียวได้รูปโดยไม่ต้องผ่าตัด 

ร้อยไหมยกกรอบหน้า

การร้อยไหม 8D ช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง

นวัตกรรมการร้อยไหมโดยใช้ไหมล็อค 8D ซึ่งมีเงี่ยง 360 องศารอบตัวไหมช่วยกระตุ้นเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังให้สร้างคอลลาเจนไปพร้อมกับดึงการยกกระชับใบหน้า ดังนั้นจึงช่วยแก้ปัญหาดังต่อไปนี้ 

  • แก้ปัญหาความหย่อนคล้อยและริ้วรอย ร่องลึกต่างๆ ทำให้ใบหน้าเรียวกระชับได้รูป กรอบหน้าชัดขึ้น 
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน จึงทำให้ผิวหน้ามีความยืดหยุ่น แข็งแรง ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย รวมถึงริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงอารมณ์และสีหน้า 
  • แก้ปัญหาหน้าตอบ โดยการร้อยไหมเพื่อยกกระชับแก้มด้านข้างให้หน้าอิ่มและมีแก้มมากขึ้น
  • แก้ปัญหารูขุมขนกว้าง ช่วยลดขนาดรูขุมขน ทำให้ผิวหน้าดูเนียนกระชับ
  • แก้ปัญหาเหนียงหรือไขมันใต้คางและลำคอ 
  • แก้ปัญหาฮัมพ์ที่สันจมูก เก็บปีกจมูก ทำให้สันจมูกดูคมขึ้น 

การร้อยไหมแก้ปัญหาอะไรบ้าง
ไหมล็อค 8D คืออะไร

การร้อยไหมด้วยไหมล็อค 8D นั้นจะใช้ไหมละลาย PDO (Polydioxanone) ที่มีลักษณะพิเศษคือมีเงี่ยงรอบไหม 360 องศาร้อยเข้าไปใต้ผิวหนัง โดยเราเรียกไหมลักษณะนี้ว่า ไหมก้างปลา เงี่ยงเหล่านี้จะช่วยเกี่ยวเนื้อเยื่อผิวหนังบริเวณนั้นให้ยกขึ้น กระชับขึ้น ทำให้หน้าเรียวสวยได้รูป กระชับขึ้นทันทีโดยไม่ต้องผ่าตัด อีกทั้งเงี่ยงเหล่านั้นยังช่วยกระตุ้นให้เนื้อเยื่อผิวสร้างคอลลาเจน ทำให้เวลาผ่านไปหน้าก็ยิ่งยกกระชับขึ้นอย่างต่อเนื่องจากคอลลาเจนที่สร้างขึ้นใหม่ตามแนวไหมที่ร้อยเข้าไป จึงทำให้หน้าวีเชฟสวยได้ตามต้องการ 

ประเภทของไหม

ในปัจจุบัน ไหมที่นิยมใช้ในการร้อยไหมมีสองประเภท ได้แก่

ไหมเงี่ยง (Cog threads)

ไหมเงี่ยง หรือ bidirectional barbed thread บางคนเรียกว่าไหมก้างปลา คือ ไหมละลาย POD ขนาดใหญ่ ที่ออกแบบให้มีเงี่ยงคล้ายดอกทิวลิปรอบทิศทาง 360 องศา เส้นหนาและแข็งแรงทนทาน ส่งผลให้มีแรงยกสูงกว่าไหมทั่วไป ช่วยยกกระชับใบหน้าและผิวหน้า พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนไปด้วยกัน 

ไหมเงี่ยง (Cog threads)

ไหมเกลียว (Screw threads)

ไหมเกลียว หรือ Screw Thread เป็นไหมละลาย POD เช่นกัน มีลักษณะเป็นไหมเส้นเดียวหรือสองเส้นพันกันเป็นเกลียวม้วนคล้ายกับสปริง มีลักษณะของเกลียวเช่นนี้ทำให้แข็งแรงกว่าไหมแบบเรียบ ช่วยเพิ่มปริมาตรให้กับผิวหนังที่ยุบตอบลงไป ช่วยยกกระชับใบหน้าที่หย่อนคล้อยได้ดี 

ไหมเกลียว (Screw threads)

การร้อยไหม 8D เหมาะกับใคร และไม่เหมาะกับใครบ้าง ?

เช่นเดียวกับการทำหัตถการอื่นๆ ก่อนตัดสินใจร้อยไหม ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเสี่ยงในการทำก่อนว่าการร้อยไหมเหมาะกับเราหรือไม่

ผู้ที่เหมาะกับการร้อยไหมล็อค 8D

  • ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป  รีวิวเคสคุณหลิน
  • ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวหน้า หรือมีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยและมีริ้วรอยแห่งวัย 
  • ผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าแต่ไม่พร้อมผ่าตัด หรือทำศัลยกรรมดึงหน้า ไม่ต้องการพักฟื้นและไม่ต้องการมีแผลเป็นหลังผ่าตัด
  • ผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าแบบเห็นผลทันที 
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้หน้าเรียวเล็ก ได้รูป ต้องการมีรูปหน้าวีเชพ
  • ผู้ที่มีปัญหาแก้มตอบแต่ไม่ต้องการฉีดฟิลเลอร์

ผู้ที่ไม่เหมาะกับการร้อยไหมล็อค 8D

  • ผู้ที่มีไขมันบริเวณใบหน้ามากเกินไป เนื่องจากอายุหรือน้ำหนักตัว
  • ผู้ที่มีผิวหนังหย่อนคล้อยมากๆ เนื่องจากอายุหรือน้ำหนักตัว 
  • ผู้ที่มีปัญหาอักเสบติดเชื้อที่ผิวหนังบริเวณที่จะร้อยไหม
  • ผู้ที่มีประวัติแพ้วัสดุของเส้นไหมหรือยาชา
  • ผู้ที่เคยฉีดซิลิโคนเหลวที่ใบหน้า
  • ผู้ที่มีกล้ามเนื้อกรามใหญ่เกินไป
  • ผู้ที่ปัญหาแก้มตอบ แต่ไม่มีไขมันที่แก้มเลย 
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น SLE หรือภูมิแพ้ตัวเอง, โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์, โรคเบาหวาน, โรคหัวใจและความดันโลหิตสูง, โรคไทรอยด์เป็นพิษ เป็นต้น

การร้อยไหม 8D อันตรายไหม ?

การร้อยไหมในปัจจุบันถือเป็นวิธีการยกกระชับใบหน้าและปรับรูปหน้าที่มีความปลอดภัยสูง แม้จะเกิดผลข้างเคียงได้บ้างแต่ส่วนใหญ่ไม่รุนแรง เช่น เกิดอาการบวมแดงบริเวณรอยเข็ม หรือ รอยช้ำตามแนวไหม เป็นต้น อย่างไรก็ตามควรเลือกร้อยไหมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถร้อยไหมด้วยวิธีที่ถูกต้องและใช้ไหมล็อค 8D ของแท้ ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาจริงๆ 

การร้อยไหม 8D เจ็บไหม ?

ก่อนแพทย์จะเริ่มร้อยไหมล็อค 8D แพทย์จะให้ยาชา และฉีดยาชาก่อนเริ่มทำหัตถการ ดังนั้นระหว่างร้อยไหมคนไข้จึงไม่รู้สึกเจ็บ อาจจะเจ็บตอนที่แพทย์ฉีดยาชาก่อนเริ่มทำเท่านั้น 

รีวิวคุณหมอฝ้ายร้อยไหม

การร้อยไหม 8D ทำบริเวณไหนได้บ้าง ?

การร้อยไหมเพื่อปรับรูปหน้าและยกกระชับผิวหน้า นั้นสามารถทำในบริเวณต่างๆ ได้ดังต่อนี้ 

  • ร้อยไหมเพื่อยกกระชับแก้ม แก้ปัญหาหน้าตอบ และร่องแก้มเยอะ
  • ร้อยไหมบริเวณกราม ขากรรไกร เพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก เป็นรูปหน้าวีเชพ
  • ร้อยไหมเพื่อลดฮัมพ์ที่สันจมูก ลดปีกจมูก
  • ร้อยไหมบริเวณหน้าผาก เพื่อลดริ้วรอย
  • ร้อยไหมบริเวณเหนียงหรือคางสองชั้น 
  • ร้อยไหมยกมุมปาก แก้ปัญหาปากตกและริ้วรอยรอบมุมปาก
  • ร้อยไหมยกหางตา แนวคิ้ว พื้นที่ใต้ตา 

การร้อยไหม 8D ต้องร้อยกี่เส้นถึงจะเห็นผล ?

จำนวนของเส้นไหมในการร้อยไหมล็อค 8D ขึ้นอยู่กับขนาดและรูปหน้าคนไข้เป็นสำคัญ รวมไปถึงสภาพปัญหาของคนไข้แต่ละคนด้วย เช่น คนที่มีรูปหน้าเล็ก อาจจะใช้เส้นไหมเริ่มต้นที่ 6 เส้น แต่หากมีใบหน้าขนาดใหญ่ อาจต้องใช้ไหมถึง 20 เส้น หรือให้แพทย์เป็นผู้พิจารณาก่อนการรักษา

การเตรียมตัวก่อนการเข้าร้อยไหม 8D ?

ก่อนทำการร้อยไหมล็อค 8D มีวิธีการปฏิบัติตัวดังต่อไปนี้ 

  • ปรึกษาแพทย์เพื่อให้แพทย์ประเมินใบหน้าและสภาพปัญหาว่าเหมาะที่จะร้อยไหมหรือไม่ 
  • แจ้งประวัติโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยาหรืออาหาร ยาและอาหารเสริมที่รับประทานเป็นประจำเพื่อให้แพทย์ประเมินความเสี่ยงก่อนรับบริการ 
  • งดยาหรืออาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเกล็ดเลือด เช่น แอสไพริน ยาในกลุ่ม NSAIDs วิตามินอี เป็นต้น อย่างน้อย 14 วันก่อนทำหัตถการ
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนร้อยไหม

การร้อยไหม 8D ผลลัพธ์อยู่ได้นานไหม ?

การร้อยไหมล็อค 8D ซึ่งเป็นไหมละลาย PDO นั้นโดยปกติจะมีอายุของไหมประมาณ 6-8 เดือน แต่ไหมล็อค 8D จะมีเงี่ยงที่อยู่รอบตัวไหมซึ่งช่วยกระตุ้นผิวให้สร้างคอลลาเจนด้วย ดังนั้นผลลัพธ์จึงอยู่ได้ต่อเนื่องนาน 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับการละลายของเงี่ยงที่เกาะผิวด้วย

อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นของการร้อยไหม 8D

  • หลังร้อยไหมอาจจะมีอาการบวมช้ำบริเวณเส้นไหมและรอยแดงบริเวณรอยเข็ม ไม่ต้องกังวล ไม่เกิน 7-14 วันอาการเหล่านี้จะหายได้เอง
  • เกิดยุบหรือบุ๋มบนใบหน้า หรือผิวหน้ามีลักษณะเป็นคลื่น ไม่เรียบ ซึ่งเกิดการแรงดึงของไหม เป็นถือเป็นเรื่องปกติ เมื่อไหมที่ร้อยเริ่มเซ็ตตัวเข้ากับผิวหน้า ร่องรอยต่างๆจะค่อยๆหายไปภายในเวลาไม่เกินหนึ่งเดือน 
  • หากเห็นรอยบุ๋มและเส้นไหมชัดเจน แพทย์อาจจะร้อยไหมในชั้นผิวที่ตื้นเกินไปหรือผิดชั้น ต้องรีบกลับไปให้แพทย์แก้ไข
  • เกิดอาการไหมขาด ซึ่งจะได้ยินเสียงไหมดีดใบหน้าดังเปี๊ยะ ทำให้รู้สึกเจ็บแปล๊บและเกิดรอยช้ำบริเวณนั้นได้
  • หากเราแสดงออกทางสีหน้ามากๆ มีการเคลื่อนไหวที่ใบหน้ามากเกินไป อาจจะทำให้ไหมเคลื่อนลงมา ทำให้เกิดอาการเขียวช้ำบริเวณนั้นได้เหมือนกัน

การดูแลตัวเองหลังการร้อยไหม 8D

ข้อปฏิบัติและวิธีดูแลง่ายๆหลังการร้อยไหม มีดังต่อไปนี้ 

  • รับประทานยาตามใบสั่งของแพทย์ 
  • งดล้างหน้าหรือโดนน้ำ 24 ชั่วโมงหลังร้อยไหม
  • งดออกกำลังกายหนักๆ หลังร้อยไหม 1-2 สัปดาห์
  • งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังร้อยไหม
  • งดสัมผัสความร้อนสูง เช่น ซาวน่า, อาบแดด, กินปิ้งย่าง การทำเลเซอร์ เพื่อให้ความดันโลหิตอยู่ในภาวะปกติ
  • ไม่ควรกด ถู หรือนวดหน้าอย่างน้อย 10-14 วันหลังร้อยไหม
  • หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าอย่างน้อย 12 ชั่วโมง เพื่อเลี่ยงการสัมผัส ขัดหรือถูใบหน้าให้ได้มากที่สุด
  • หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหรือตะแคง เพื่อให้ใบหน้าไปถูกกดทับหรือเสียดสี อย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังร้อยไหม
  • หากพบอาการข้างเคียงไม่พึงประสงค์รุนแรง ควรกลับไปพบแพทย์ทันที

การร้อยไหม 8D สามารถทำควบคู่กับ HIFU ได้ไหม ?

สามารถทำควบคู่กันได้ แต่ควรเป็นไปตามความเห็นและการดูแลของแพทย์เท่านั้น การร้อยไหม 8D นั้นจะช่วยยกกระชับใบหน้าได้ใกล้เคียงกับการทำศัลยกรรมดึงหน้าเลยทีเดียว แนะนำให้ทำ HIFU เพื่อเก็บรายละเอียดสำหรับบริเวณที่การร้อยไหมเข้าไปไม่ถึง 

ข้อดี – ข้อเสีย ของการร้อยไหม 8D

ข้อดีของการร้อยไหม

  • ปลอดภัย หากใช้ไหมที่มีคุณภาพและเหมาะกับสภาพและปัญหาผิว
  • ไม่ต้องพักฟื้น
  • ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น 
  • เห็นผลได้ในทันที

ข้อเสียของการร้อยไหม

  • หากมีปัญหามาก เช่น ผิวหนังหย่อนคล้อยมากไป หรือเซลลูไลท์มากไปทำไม่ได้, อายุมาก การสร้างคอลลาเจนน้อยลงมาก อาจจะไม่เห็นผลเลย 
  • การร้อยไหมบ่อยเกินไปอาจจะเกิดพังผืดได้
  • อาจเกิดอาการบวมช้ำ ในกรณีไหมขาด, ไหมเคลื่อนตัว 
  • ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ถาวร อยู่ไม่นานเท่ากับการทำศัลยกรรมดึงหน้า 
  • ในกรณีแพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญ อาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ เช่น มีไหมโผล่ให้เห็นบนผิวหนัง เป็นต้น 

ข้อสรุป

การร้อยไหมโดยใช้ไหมล็อค 8D เป็นนวัตกรรมการยกกระชับผิวหน้าและปรับรูปหน้า เพื่อให้ได้ใบหน้าเรียวสวยตามต้องการ เป็นเทคนิคที่มีความปลอดภัย ผลข้างเคียงน้อย แถมไม่ต้องพักฟื้น เหมาะสำหรับคนที่ไม่พร้อมทำศัลยกรรมดึงหน้า อย่างไรก็ตาม ควรหาข้อมูลให้รอบด้านและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจทุกครั้งเพื่อประเมินความเสี่ยงและเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด 

ร้อยไหม

รีวิวร้อยไหม

รีวิวร้อยไหม

รีวิวร้อยไหม

ร้อยไหม

รีวิวร้อยไหม

เอยาคลินิก