ปัญหาผิวไม่เรียบเนียน และหลุมสิวเป็นปัญหาใหญ่ที่รบกวนชีวิตประจำวันและทำลายความมั่นใจของใครหลายๆคน โดยเฉพาะในวันสำคัญต่างๆ ของชีวิต ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ช่วยให้คุณไม่ต้องทนอยู่กับหลุมสิวและรอยแผลเป็นที่ไม่น่าดูเหล่านั้น ด้วยนวัตกรรมที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง ในการรักษาหลุมสิวอย่างไร้ที่ติ เผยให้เห็นผิวหน้าที่สดใสเปล่งปลั่งจากภายใน หนึ่งในวิธีเหล่านั้นก็คือ Fractional CO2 Laser หรือเลเซอร์รักษาหลุมสิวด้วยหลักการ Fractional Photothermolysis (FP)

หลุมสิว คืออะไร

“หลุมสิว” (Atrophic scars) คือ แผลเป็นที่เกิดจากสิวอักเสบในระดับปานกลางหรือรุนแรง และเกิดขึ้นลึกลงไปกว่าผิวหนังชั้นนอก ส่วนใหญ่แล้วมักเกิดขึ้นบนใบหน้า มีลักษณะยุบตัวลงจากผิวหนังรอบๆ เป็นรอยบุ๋มหรือเป็นหลุมลึกลงไปและหายค่อนข้างยาก มีสาเหตุมาจากการสร้างคอลลาเจนที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่ผิวหนังกำลังอยู่ในขั้นตอนการรักษาตัวของมันเอง หากมีมากก็ทำให้ผิวหน้าขรุขระ ไม่เรียบเนียน

จากการศึกษาพบว่ามีปัจจัยเสี่ยงอีกหลายอย่างนอกจากความรุนแรงและขนาดของสิวอักเสบที่ส่งผลทำให้เกิดหลุมสิวได้ ได้แก่ ระยะเวลาในการรักษาหลุมสิว ประวัติของครอบครัว หรือกระบวนการผลัดเซลล์ผิว เป็นต้น

การป้องกันการเกิดหลุมสิว

การป้องกันไม่ให้เกิดหลุมสิวตั้งแต่แรก เป็นวิธีการแก้ปัญหาหลุมสิวที่ดีที่สุด จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร British Journal of Dermatology พบว่าการรักษาสิวอย่างถูกวิธีนั้นสำคัญมาก หากเป็นไปได้ควรจะรักษาสิวตั้งแต่ระยะแรกของการเกิดสิว เพราะจะยับยั้งการอักเสบได้ดีที่สุด หากปล่อยให้เกิดการอักเสบกินระยะเวลานานมากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งเพิ่มโอกาสการเกิดแผลเป็นหรือหลุมสิวมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการสร้างคอลลาเจนลดลงตามอายุที่มากขึ้น ยิ่งเป็นปัจจัยเสริมทำให้เกิดหลุมสิวเพิ่มขึ้นด้วย

หลุมสิวมีกี่ประเภท อะไรบ้าง

“หลุมสิว” (Atrophic หรือ Depressed acne scars) เป็นรอยบุ๋มที่ผิวหนัง มักเกิดบนใบหน้ามากกว่าส่วนอื่นๆของร่างกาย หลุมสิวมีด้วยกัน 3 ชนิด ได้แก่

หลุมสิวชนิด Rolling scar

หรือในภาษาไทยเรียกว่า “หลุมสิวแบบคลื่น” มีลักษณะเป็นหลุมกว้าง และลักษณะเป็นคลื่นไม่สม่ำเสมอ โดยทั่วไปหลุมสิวชนิดนี้จะมีขอบมน

หลุมสิวชนิด Box scar

ในภาษาไทยเรียกว่า “หลุมสิวแบบกล่อง” มีลักษณะเป็นรูปตัวยู กว้างและมีขอบคม มีทั้งหลุมตื้นและหลุมลึก ยิ่งหลุมตื้นเท่าไร ก็จะตอบสนองต่อผลิตภัณฑ์สำหรับผลัดเซลล์ผิวได้ดีมากขึ้นเท่านั้น การกรอผิวด้วยการพ่นผลึกแร่ (Microdermabrasion) หรือวิธีการลอกผิวหนังชั้นกำพร้าอย่างอ่อนโยนสามารถนำมาใช้รักษาหลุมสิวชนิดนี้ได้ และเหมาะสำหรับกับการรักษาผิวทุกประเภท

แต่การผลัดผิวด้วยเลเซอร์จำเป็นต้องทำอย่างระมัดระวัง เนื่องจากอาจจะมีโอกาสเกิดแผลเป็นมากขึ้นและเกิดการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสี ซึ่งเป็นการเกิดเม็ดสีหลังจากการอักเสบ อาจจะต้องปรับสภาพผิวที่คล้ำเสียก่อนอย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ก่อนเริ่มการรักษา

หลุมสิวชนิด Ice pick scar

ในภาษาไทยเรียกหลุมสิวแบบนี้ว่า “หลุมสิวแบบจิก” มีลักษณะเป็นแผลเป็นยุบลงไปเป็นหลุมแคบๆ รูปตัววี ปากหลุมอาจจะมีลักษณะเป็นรูกลมหรือวงรีขนาดเล็ก รอยหลุมสิวชนิดนี้เป็นรอยแผลเป็นที่รักษาได้ยากที่สุด เนื่องจากสามารถลงลึกไปถึงใต้ชั้นผิวหนังลงไปได้ แผลเป็นจากอีสุกอีใสก็มีลักษณะดังกล่าวนี้ด้วย

การรักษาหลุมสิวมีอะไรบ้าง

แผลเป็นในลักษณะของหลุมสิวเป็นแผลเป็นที่เกิดจากสิวที่พบได้บ่อยมากที่สุด ซึ่งมีทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่ หลุมสิวแบบคลื่น, แบบกล่องและแบบจิก การรักษาหลุมสิวนั้นขึ้นอยู่กับประเภทของหลุมสิวที่คุณเป็น ซึ่งการรักษาหลุมสิวเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก ต้องทำหลายขั้นตอนและอาจจะต้องทำซ้ำภายในช่วงเวลาหนึ่ง

การรักษาหลุมสิว ควรรักษากับแพทย์ผิวหนังที่มีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง ซึ่งแพทย์จะสามารถให้คำแนะนำเพื่อช่วยเร่งฟื้นฟูสภาพผิวหน้า และประเมินความเสี่ยงจากการรักษาที่อาจจะไม่ได้ผลหรือแม้แต่ทิ้งรอยแผลเป็นใหม่ได้

ในปัจจุบันมีวิธีการรักษาหลุมสิวหลายวิธี เช่น การผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วด้วยผลิตภัณฑ์ทางเคมีต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างผิวใหม่ที่เรียบเนียน, การใช้ลูกกลิ้งเข็มขนาดเล็ก (microneedling) กลิ้งไปตามผิวหนังเพื่อกระตุ้นให้ผิวหนังเกิดการสร้างคอลลาเจนและเส้นใยอิลาสตินมากขึ้น, การทำ subcision, การฉีดฟิลเลอร์ หรือการใช้เลเซอร์รักษาหลุมสิว เป็นต้น

การทำ Subcision

เป็นกระบวนการรักษารอยแผลเป็นแบบหลุมสิวที่มีราคาไม่แพง เหมาะสำหรับการรักษาหลุมสิวแบบคลื่นมากที่สุด แม้ว่าจะสัมฤทธิ์ผลได้ภายในขั้นตอนเดียว แต่มักจะทำควบคู่ไปกับการรักษาหลุมสิววิธีอื่นๆด้วย เช่น การทำ microneedling ,Fractional CO2 laser และการผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี

การทำ Subcision จะช่วยทำให้ผิวหนังบริเวณรอบๆหลุมสิวหย่อนลง แล้วใช้เข็มที่มีลักษณะพิเศษสอดเข้าไปใต้ผิวหนังและสะกิดให้เกิดแผลเป็นใหม่เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาอีกครั้งจนดันให้หลุมสิวนั้นตื้นขึ้นมา จนเสมอไปกับผิวหนังชั้นปกติ

ในระหว่างที่สอดเข็มไปใต้ผิวหนังซ้ำๆในทิศทางต่างๆ รอบเนื้อเยื่อหลุมสิว อาจจะต้องมีการกดแผลและประคบน้ำแข็งเพื่อป้องกันเลือดออกด้วย วิธีการทำ Subcision นี้อาจจะพิจารณาทำซ้ำได้หากแผลเป็นนั้นมีความรุนแรงมากขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว

การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวเป็นวิธียอดนิยมในการรักษาหลุมสิวแบบคลื่น เราใช้ฟิลเลอร์เพื่อปรับระดับผิวหรือยกหลุมสิวขึ้นมาให้เสมอกับชั้นผิวหนังปกติ โดยการฉีดเข้าไปใต้แผลเป็นนั้นและสามารถเห็นผลได้ในทันที เนื่องจากฟิลเลอร์ไปช่วยเติมเต็มเนื้อเยื่ออ่อนและเพิ่มปริมาตรของผิวหนัง จึงช่วยลดรอยหลุมสิวได้ ข้อเสียของวิธีนี้คือผลลัพธ์ที่ได้ไม่ถาวร ขึ้นอยู่กับฟิลเลอร์นั้นจะเริ่มสลายไป ซึ่งระยะเวลาอยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือน

การทำ Fractional Co2 laser

เป็นนวัตกรรมที่ช่วยกำจัดผิวหนังชั้นนอกออกด้วยเลเซอร์ เผยให้เห็นผิวที่สดใสเรียบเนียน ปราศจากรอยแผลเป็นและหลุมสิว ซึ่งเป็นเทคนิคที่ค่อนข้างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในปัจจุบัน

Fractional Co2 laser คืออะไร

Fractional Co2 Laser เป็นนวัตกรรมการดูแลรักษาผิวหน้าประเภทหนึ่งที่แพทย์ผิวหนังให้การยอมรับอย่างกว้างขวาง เพื่อช่วยลดรอยแผลเป็นจากสิวหรือหลุมสิว ริ้วรอยลึก และความผิดปกติอื่นๆของผิวหนัง โดยใช้เลเซอร์ที่ทำขึ้นเป็นพิเศษจากคาร์บอนไดออกไซด์มาช่วยขจัดผิวหนังชั้นนอกที่มีปัญหาได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

หลักการทำงานของ Fractional Co2 laser เป็นอย่างไร

กระบวนการ Fractional Co2 Laser นั้นเป็นการนำหลักการของ Fractional Photothemolysis (FP) มาใช้ โดยการปล่อยลำแสงช่วงสั้นเล็กๆ ตามตำแหน่งที่ต้องการรักษา โดยให้ลำแสงนั้นแทรกลึกลงไปถึงเนื้อเยื่อผิวหนังชั้นหนังแท้ในระดับที่ต้องการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ซึ่งการรักษาผิวด้วยวิธีนี้จะทำทีละส่วน โดยไม่มีการรบกวนเนื้อเยื่อที่อยู่รอบๆ ผิวที่ถูกความร้อนจากเลเซอร์จะเกิดการถลอกของผิวเป็นจุดตื้นๆขนาดเล็กประมาณ 10-20% ของพื้นที่ผิว การเกิดแผลขนาดเล็กช่วยกระตุ้นให้เกิดกระบวนการรักษาบาดแผล (Wound healing) เกิดการสร้างเนื้อเยื่อขึ้นใหม่ ส่งผลให้รอยแผลเป็นและหลุมสิวจางลง ได้ผิวใหม่ที่เรียบเนียน ไร้ริ้วรอย

Fractional Co2 laser เหมาะกับการรักษาอะไรบ้าง

Fractional Co2 Laser นิยมใช้รักษาหลุมสิวหรือรอยแผลเป็นจากสิว ริ้วรอยต่างๆ อย่างไรก็ตามนวัตกรรมนี้ยังถูกนำมาใช้รักษาปัญหาผิวได้อย่างหลากหลาย เช่น

จุดด่างดำตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น หรือ กระผู้สูงอายุ
รอยแตกลาย
ต่อมไขมันอุดตัน (โดยเฉพาะบริเวณจมูก)
ริ้วรอยเล็กๆหรือร่องลึก เช่นร่องรอยตีนกา หน้าผาก ร่องลึกรอบปาก
รอยดำ/จุดด่างดำ แผลเป็น
ผิวหย่อนคล้อยที่เกิดจากการลดลงของอีลาสติน
ผิวหนังที่ถูกทำลายจากแสงแดด
สีผิวไม่สม่ำเสมอ

นอกจากปัญหาทางผิวหนังดังกล่าวแล้ว แพทย์ผิวหนังยังแนะนำให้ใช้ Fractional Co2 Laser ในคนไข้ที่ประสบปัญหาการดึงหน้าหรือ Facelift อีกด้วย

รีวิวคุณกาย ศิวกรรักษาหลุมสิว

ระหว่างการรักษา Fractional Co2 laser จะรู้สึกอย่างไร

ในระหว่างการรักษาหลุมสิวและรอยแผลเป็นด้วย Fractional Co2 Laser คนไข้อาจจะมีความรู้สึกไม่สบายในบริเวณที่ถูกความร้อนจากเลเซอร์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น อาจจะรู้สึกแสบร้อนเมื่อเนื้อเยื่อของผิวหนังได้รับความร้อน ซึ่งแพทย์ที่ทำการรักษามักจะใช้ยาชาทาเฉพาะที่หรือมีการเป่าลมเย็นเพื่อลดการระคายเคืองและเพื่อให้คนไข้รู้สึกสบายมากขึ้น

ขั้นตอนการรักษา Fractional Co2 laser

ขั้นตอนแรกในการทำ Fractional Co2 Laser แพทย์จะทายาชาเฉพาะที่ก่อนทำประมาณ 30-40 นาที โดยขั้นตอนการทายาชานี้ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที เพื่อให้คนไข้รู้สึกไม่เจ็บปวดขณะทำ บางครั้งอาจจะเป็นเพียงการเป่าลมเย็นหรือใช้ความเย็นประคบระหว่างทำ

จากนั้นจะเริ่มทำโดยใช้ลำแสงคลื่นสั้น หรือที่เรียกว่า ultra pulse มาช่วยกำจัดผิวหนังชั้นนอกที่มีปัญหาออกไป เมื่อเซลล์ผิวหนังที่ตายหลุดออก ก็จะกระตุ้นชั้นผิวหนังที่อยู่ลึกลงไปให้ผลิตคอลลาเจนมากขึ้นซึ่งเป็นกระบวนการตามธรรมชาติ หลังทำผิวหน้าจะแดงและตกสะเก็ดเป็นจุดเล็กๆ ในบริเวณที่ใช้เลเซอร์ในการรักษา ซึ่งสะเก็ดนี้จะหลุดออกไปเองภายใน 5-7 วัน สุดท้ายผลลัพธ์ที่ได้ก็คือผิวใหม่ที่แข็งแรง กระชับขึ้นและเรียบเนียน ปราศจากริ้วรอย

ผลลัพธ์หลังทำการรักษา Fractional Co2 laser

ผลลัพธ์ที่ได้จากการรักษาด้วย Fractional Co2 Laser นั้นมีหลายประการ ได้แก่

สีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น
กำจัดริ้วรอยต่างๆ ทั้งริ้วรอยขนาดเล็ก รอยเหี่ยวย่นหรือร่องลึกลดลงอย่างเห็นได้ชัด
รอยแผลเป็นต่างๆ ลดลง
ผิวหน้าสว่างกระจ่างใสขึ้น
รูขุมขนเล็กลง
ผิวกระชับขึ้น

อาการข้างเคียงหลังทำ Fractional Co2 laser

เนื่องจากการทำ Fractional Co2 Laser เป็นการใช้เลเซอร์นำความร้อนเข้าสู่ผิวหนัง คนไข้อาจจะพบรอยแดงหรือบวมในบริเวณที่ทำการเลเซอร์หลุมสิว บางคนอาจจะรู้สึกไม่สบายบริเวณใบหน้าที่ทำการรักษา และมีแผลตกสะเก็ดเล็กบริเวณที่ทำ

ในกรณีเลวร้ายที่สุดแต่พบได้น้อยมาก คนไข้บางรายอาจจะมีภาวะแทรกซ้อนทางผิวหนังจากการรักษา เช่น มีผื่นแดงเป็นเวลานาน ซึ่งโดยทั่วไปรอยแดงจะหายเป็นปกติใน 3-4 วัน หากมีรอยแดงเกินหนึ่งเดือนควรพบแพทย์เพื่อปรึกษาเรื่องอาการแทรกซ้อน, ผิวหนังทิ้งรอยดำหลังจากการอักเสบหรือบาดเจ็บในขั้นตอนการทำ ซึ่งกรณีดังกล่าวมักพบในผู้ป่วยที่มีผิวคล้ำ, การติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นกรณีที่พบยากที่สุด มีโอกาสเพียง 0.1% เท่านั้น อย่างไรก็ตามอาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์เหล่านี้สามารถป้องกันได้โดยทำตามคำแนะนำของแพทย์ผิวหนังอย่างเคร่งครัด

ข้อปฎิบัติหลังการทำ Fractional Co2 laser

หลังการทำ Fractional Co2 Laser คนไข้ต้องไม่ลืมทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวจากรังสีของดวงอาทิตย์ที่เป็นอันตราย งดออกแดดและงดกิจกรรมกลางแจ้ง ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและบำรุงผิวหน้าสูตรอ่อนโยนวันละสองครั้ง หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มยาทาสิวและผลิตภัณฑ์สูตรเข้มข้นหรือรุนแรง ควรจำกัดการแต่งหน้าให้น้อยที่สุดเพื่อลดการระคายเคือง จนกระทั่งสะเก็ดบนใบหน้าเริ่มล่อนออกซึ่งใช้เวลาประมาณ 7-10 วันให้ผิวเริ่มแข็งแรง จึงจะสามารถเริ่มกลับมาใช้ผลิตภัณฑ์เดิมได้ตามปกติ เพื่อลดอาการบวมแดง หลังการรักษาหลุมสิวด้วยFractional Co2 Laser คนไข้สามารถใช้วิธีประคบน้ำแข็งบริเวณที่ทำการรักษาภายใน 24-48 ชั่วโมง และทาขี้ผึ้ง (ointment) เท่าที่จำเป็นเพื่อป้องกันการเกิดสะเก็ดแผล สุดท้ายคนไข้ต้องปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย เช่น การว่ายน้ำหรือการออกกำลังกาย การออกแดดจัดอย่างน้อย 7-10 วันจึงจะทำกิจวัตรได้ตามปกติ

การทำ Fractional Co2 laser ควรทำบ่อยแค่ไหน

ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำ Fractional Co2 Laser ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาสภาพผิวของคนไข้แต่ละคน คนส่วนใหญ่จะเห็นผลลัพธ์ที่ต้องการหลังจากทำเพียงครั้งเดียว แต่คนไข้บางรายอาจจะต้องทำ Fractional Co2 Laser ซ้ำ 3-6 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกันประมาณ 4-6 สัปดาห์ หากคนไข้มีปัญหารุนแรงหรือผิวหนังถูกทำลายมาก แพทย์ผิวหนังอาจจะแนะนำให้รักษาร่วมกับวิธีอื่นๆด้วย

การทำ Fractional Co2 laser ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน

ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำ Fractional Co2 Laser จะคงอยู่นานแค่ไหนนั้นแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล ซึ่งระยะเวลาของผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับความแก่ชราซึ่งเป็นไปตามกระบวนการทางธรรมชาติและวิธีการดูแลตัวเอง ไม่มีวิธีการรักษาใดที่จะหยุดความเสื่อมตามวัยได้ ดังนั้นการสูญเสียคอลลาเจนที่สร้างขึ้นใหม่จะยังคงเกิดขึ้นต่อไป คนไข้ส่วนใหญ่จึงมักกลับมาทำ Fractional Co2 Laser อีกครั้ง หลังจากทำไปแล้ว 1-2 ปีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต่อเนื่อง

ข้อควรระวังสำหรับผู้ที่ทำการรักษา Fractional Co2 laser

แม้ว่านวัตกรรม Fractional Co2 Laser จะมีความปลอดภัยสูง แต่ก็ไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน มีคนไข้บางกลุ่มที่ต้องระมัดระวังในการใช้อย่างมาก กลุ่มคนไข้ที่มีสิวอักเสบเป็นบริเวณกว้าง, มีแผลเปิดหรือมีการติดเชื้อบนใบหน้าควรหลีกเลี่ยงการรักษาด้วย Fractional Co2 Laser และยังรวมไปถึงคนไข้ที่รับประทานยารักษาสิวในกลุ่มไอโซเตรติโนอินก็จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการรักษาดังกล่าว เนื่องจากการศึกษาพบว่ามีความเสี่ยงต่อภาวะผิวไวต่อแสงหากคนไข้มีโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนตัดสินใจทำ Fractional Co2 Laser เพื่อลดการติดเชื้อของแผลหลังการทำจะเห็นว่าการทำ Fractional Co2 Laser มีข้อจำกัดบางอย่าง ซึ่งก่อนตัดสินใจทำคนไข้ควรได้รับการประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้ง

ข้อสรุป

รอยแผลเป็นจากสิวอักเสบ หรือหลุมสิว อาจะทำให้เรารู้สึกหงุดหงิด กังวลใจ แต่มีวิธีการดูและรักษาหลายอย่างที่ช่วยให้ริ้วรอยต่างๆเหล่านั้นสังเกตเห็นได้น้อยลง แม้แผลเป็นส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นอย่างถาวร แต่แพทย์ผิวหนังที่เชี่ยวชาญก็สามารถช่วยเราหาวิธีรักษาที่เหมาะสมเพื่อช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นและหลุมสิวเหล่านั้นได้ วิธีการรักษาแผลเป็นและหลุมสิวที่ดีที่สุด คือ การป้องกันไม่ให้เกิดแผลเป็นตั้งแต่แรก การพบแพทย์ผิวหนังจึงเป็นทางเลือกที่ดี เพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมเมื่อคุณเป็นสิว เช่น หากเป็นสิวอุดตันอาจใช้วิธีการกดสิว หรือหากเป็นสิวอักเสบแพทย์อาจจะพิจารณาการฉีดสิว เป็นต้น โอกาสการเกิดแผลเป็นจะน้อยลงหากคุณหลีกเลี่ยงการแกะหรือบีบสิว เพื่อป้องกันการระคายเคืองผิวและทำลายเนื้อเยื่อที่อยู่ใต้ผิว ซึ่งนำไปสู่การเกิดรอยแผลเป็นและหลุมสิวได้

Fractional CO2 Laser เลเซอร์รักษาหลุมสิว ช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียน

หลุมสิว คืออะไร

การป้องกันการเกิดหลุมสิว