HI-EMT กู้หน้าท้องย้วยหลังคลอด แก้ไขปัญหาหน้าท้องแยกของคุณแม่
ปัญหาที่สร้างความกังวลให้คุณแม่หลังคลอดมากที่สุด คือปัญหารูปร่างเปลี่ยนไป โดยเฉพาะไขมันหน้าท้องทำให้หน้าท้องย้วย หน้าท้องหย่อนคล้อย หรือหน้าท้องแยก และส่วนใหญ่คุณแม่มักบ่นเรื่องไม่มีเวลาออกกำลังกาย หรือออกกำลังได้ไม่สม่ำเสมอ ลดไขมันหน้าท้องไม่ได้ ทำให้สัดส่วนรูปร่างไม่สามารถกลับมาเหมือนเดิมได้ ปัจจุบันมีเส้นทางลัดสู่หุ่นสวย สุขภาพดี ช่วยลดหน้าท้อง แก้ปัญหาสัดส่วนของคุณแม่หลังคลอดที่ใช้เวลาไม่นาน ไม่เหนื่อย แถมควบคุมผลลัพธ์ได้ดั่งใจ โดยการเทคโนโลยีสลายไขมันและกระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแบบเฉพาะเจาะจง หรือ เครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อหน้าท้อง HI-EMT (High-Intensity Focused Electro-Magnetic) กระชับหน้าท้องพร้อมเพิ่มกล้ามเนื้อในเวลาเพียง 30 นาทีต่อวัน เทียบเท่าการซิทอัพ 20,000 ครั้ง ช่วยลดไขมันหน้าท้อง เพิ่มกล้ามเนื้อ สร้างซิกแพคและก้น เทียบเท่าการสควอช 20,000 ครั้ง ช่วยลดไขมัน สร้างกล้ามเนื้อแขน และเทียบเท่ากับการออกกำลังกายถึง 5 ชั่วโมง ที่สำคัญสามารถกระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน ทำให้คุณแม่กลับมามีหุ่นแปะ ตรงจุด ตรงใจ ได้แบบเร่งด่วนแท้จริง
กล้ามเนื้อหน้าท้องแยก คืออะไร
ภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกและอ่อนแรง หรือที่เรียกว่า Diastasis Recti คือ ภาวะที่กล้ามเนื้อหน้าท้อง (Rectus abdominis) ไม่มีความแน่นกระชับ เพราะเนื้อเยื่อที่ทำหน้าที่ยึดกล้ามเนื้อให้ติดกัน ไม่ยืดหยุ่นเหมือนที่เคยเป็น เช่น กรณีหญิงตั้งครรภ์ ไขมันหน้าท้องมาก ส่งให้กล้ามเนื้อหน้าท้องมีการแยกตัวออกจากกัน ทำให้ความแข็งแรงทนทาน หรือการคงสภาพของกล้ามเนื้อหายไป และภายหลังคลอดบุตร หากกล้ามเนื้อมีการแยกตัวออกจากกันมาก หน้าท้องจะขยายใหญ่ขึ้น ส่งให้หน้าท้องไม่กระชับ หน้าท้องย้วย หย่อนคล้อย และเอียงมาข้างหน้า ทั้งยังส่งผลให้กล้ามเนื้อหน้าท้องไม่แข็งแรง ไม่เฟิร์ม ไม่กระชับ ทำให้มีไขมันหน้าท้องมาก มองเห็นหน้าท้องยื่นออกมาด้านหน้า ซึ่งเมื่อกล้ามเนื้อหน้าท้องฉีกออกจากกันมาก ๆ อาจทำให้เป็นไส้เลื่อนได้ด้วย
การสังเกตุกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกด้วยตนเอง
ปัญหาไขมันหน้าท้องมาก ทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องแยกออกจากกันสามารถเกิดได้กับทุกคน โดยสามารถสังเกตหรือตรวจสอบ ได้ดังนี้
- วัดระยะห่างระหว่างกล้ามเนื้อหน้าท้องทั้งสองข้าง (มากกว่า 2.7 ซม.)
- การตรวจอัลตร้าซาวด์หน้าท้อง
- การตรวจ CT Scan บริเวณหน้าท้อง
สำหรับคุณแม่หลังคลอด โดยปกติหลังคลอดกล้ามเนื้อหน้าท้องจะหดตัวลงเหมือนเดิมประมาณ 2 เดือน แต่ก็อาจยังมีภาวะไขมันหน้าท้องมาก กล้ามเนื้อหน้าท้องแยกได้ เพราะเนื้อเยื่อที่ทำหน้าที่ยึดกล้ามเนื้อให้ชิดติดกันขาดความยืดหยุ่นไปแล้ว ดังนั้นคุณแม่ควรตรวจสอบภาวะหน้าท้องแยกด้วยตัวเอง ดังนี้
1. นอนราบไปกับพื้น
2. วางมือทั้งสองข้างกลางหน้าท้อง บริเวณเหนือสะดือ ให้นิ้วมือชิดกัน
3. ใช้นิ้วมือกดลงไป ระหว่างลิ้นปี่และสะดือ ค้างไว้
4. จากนั้นยกตัวขึ้นเหมือนกำลังจะซิทอัพ แต่ให้เกร็งหน้าท้องค้างไว้
5. หากหน้าท้องมีลักษณะแข็งจากการเกร็ง ถือว่ายังมีภาวะปกติ
6. หากพบว่า เมื่อกดนิ้ว แล้วนิ้วมากกว่า 2 นิ้ว ยุบลงไป ถือว่าอาจมีภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยก
สาเหตุเกิดกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกเกิดจากอะไร
การตั้งครรภ์ของคุณแม่
การตั้งครรภ์ทำให้เกิดการขยายตัวของมดลูก และกระทบกับกล้ามเนื้อหน้าท้องโดยตรง ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องมีการฉีกขาด หย่อนคล้อย และไม่กระชับเหมือนเดิม โดยเฉพาะเมื่อมีการตั้งครรภ์หลายครั้งหรือการตั้งครรภ์แฝด หรือการตั้งครรภ์เมื่ออายุมากแล้วเนื่องจากกล้ามเนื้อไม่มีการยืดหยุ่นได้ดีเท่าที่ควร
คนที่หน้าท้องใหญ่
คนที่มีน้ำหนักตัวมากหรืออ้วน และเคยมีหน้าท้องใหญ่มาก เพราะมีการสะสมของไขมันหน้าท้องมาก แม้ในปัจจุบันจะลดน้ำหนัก ลดไขมัน จนไม่มีไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้องแล้วก็ตาม แต่ภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกอาจยังมีให้เห็น เช่น คนรูปร่างผอม บางคนมีหน้าท้องยื่นออกมาเด่นชัด ถือเป็นภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกนั่นเอง
การเกิดกล้ามเนื้อท้องแยกจะรักษาได้ไหม
การรักษาภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกและอ่อนแรง จะขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของลักษณะกล้ามเนื้อหน้าท้อง ซึ่งการรักษาให้กล้ามเนื้อหน้าท้องกลับมากระชับ แข็งแรง และเฟิร์มอย่างที่เคยเป็น ทำได้หลายวิธี ดังนี้
1. การเย็บกล้ามเนื้อหน้าท้องให้กลับมาติดกัน เป็นการผ่าตัดเปิดแผลขนาดใหญ่ นำเอาไขมันหน้าท้องออก แล้วเย็บกล้ามเนื้อหน้าท้องจากชั้นในให้กระชับเข้าที่ ให้หน้าท้องมีขนาดเล็กลง เหมาะสำหรับคุณแม่หลังคลอด ที่มีภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกมาก แต่วิธีนี้จะไม่ช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและเฟิร์มกระชับ จึงต้องกระตุ้นกล้ามเนื้อหน้าท้องให้แข็งแรงและกระชับหน้าท้อง เพิ่มกล้ามเนื้อ ด้วยวิธีอื่นเพิ่ม
2. การใช้ผ้ารัดหน้าท้องหลังคลอด (ชุดกระชับหลังคลอด) เหมาะสำหรับคุณแม่ที่เพิ่งผ่านการคลอดบุตรและมีภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกและอ่อนแรงไม่รุนแรงมาก ซึ่งการใส่ชุดกระชับหลังคลอด จะช่วยพยุงและยกกระชับหน้าท้องไม่ให้กล้ามเนื้อหน้าท้อง และผิวบริเวณหน้าท้อง เกิดความหย่อนคล้อยมากขึ้น แต่อาจช่วยได้ไม่มากนัก
3. การกระตุ้นกล้ามเนื้อหน้าท้องด้วยพลังงานไฟฟ้า Neuromuscular electrical stimulation (NMES) เป็นการรักษากล้ามเนื้อหน้าท้องแยก โดยใช้กระแสไฟฟ้ากระตุ้นจากภายนอก ผ่านผิวหนัง และลงมาที่ชั้นกล้ามเนื้อ ส่งผลให้เกิดการหดตัวได้ดี และเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหน้าท้อง แต่สิ่งสำคัญ ต้องตั้งช่วงไฟฟ้ากระตุ้นให้เหมาะสม และวิธีนี้จะรู้สึกเจ็บมากในระหว่างที่ทำการรักษา
4. การออกกำลังกาย สร้างความแข็งแรงกระชับหน้าท้อง เพิ่มกล้ามเนื้อให้หน้าท้อง เป็นอีกวิธีหนึ่งทำให้ ภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกและอ่อนแรงกลับเข้าสู่สภาวะปกติได้ โดยจะต้องเลือกท่าออกกำลังให้เหมาะสม และหลีกเลี่ยงท่าที่ผลักกล้ามเนื้อออกข้างนอก ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องแยกตัวออกจากกันมากกว่าเดิม วิธีนี้จะใช้ระยะเวลา อดทน มีระเบียบวินัย และอาจไม่พึงพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้หรืออาจไม่ได้ผลลัพธ์เลยก็ได้
5. การกระชับหน้าท้อง พร้อมกระตุ้นกล้ามเนื้อหน้าท้อง ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ที่เรียกว่า HIFEM (High-Intensity Focused Electro-Magnetic) ซึ่งช่วยแก้ปัญหากล้ามเนื้อหน้าท้องแยกและทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องกลับมากระชับเหมือนเดิมแล้ว ยังจะช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อใหม่เฉพาะจุดที่ต้องการได้ในเวลารวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน
กล้ามเนื้อหน้าท้องที่แยกตัว สามารถกลับมากระชับได้ไหม
ปัจจุบันนวัตกรรมที่ช่วยรักษากล้ามเนื้อหน้าท้องแยก กระชับหน้าท้อง เพิ่มกล้ามเนื้อ ให้แข็งแรงได้เหมือนเดิม ได้แก่ การใช้เครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อ HI-EMT(High-Intensity Focused Electro-Magnetic) เทคโนโลยีการยิงคลื่นพลังแม่เหล็กไฟฟ้าส่งลงไปถึงชั้นกล้ามเนื้อและชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดการกระตุ้นกล้ามเนื้อให้เห็นชัดเจนเป็นรูปทรง โดยการกระตุ้นกล้ามเนื้อให้บีบและคลายตัว แบบที่เรียกว่า Supramaximal Contraction เพื่อช่วยเผาผลาญไขมัน พร้อมไปกับการกระตุ้นกล้ามเนื้อให้ทำงานเต็มประสิทธิภาพ ทั้งนี้ HI-EMT ไม่ใช่การลดน้ำหนักและไม่มีผลต่อการลดน้ำหนักแต่อย่างใด ขณะทำ HI-EMTจะรู้สึกเพียงกล้ามเนื้อมีการบีบและคลายตัวถี่ๆ เป็นระยะๆ ไม่รู้สึกร้อนหรือเจ็บ แต่อาจรู้สึกปวดเมื่อยล้า ซึ่งเกิดจากกลไกการทำHI-EMTที่เลียนแบบการออกกำลังกาย ส่งให้มีการสลายไขมัน ลดไขมันได้ในเวลาสั้น กล้ามเนื้อที่แยกตัวสามารถกลับมากระชับได้อย่างรวดเร็ว และยังสามารถมองเห็นกล้ามเนื้อรูปทรงชัดเจนได้มากกว่าการออกกำลังกายแบบปกติ
HI-EMTคืออะไร
เครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อ HI-EMT (High-Intensity Focused Electro-Magnetic) คือ เทคโนโลยีของการยิงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเข้าไปในชั้นของกล้ามเนื้อ เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อให้บีบและคลายตัวถี่ๆ เป็นระยะๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อมีการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อช่วยกระชับกล้ามเนื้อ และเผาผลาญไขมัน ลดไขมันไปพร้อมกัน ซึ่งจะส่งให้เกิดสร้างการกล้ามเนื้อ เพิ่มกล้ามเนื้อใหม่ในบริเวณที่ต้องการได้โดยไม่ต้องออกกำลังกาย ไม่เสียเหงื่อ ไม่เหนื่อย ไม่เจ็บตัว และไม่ต้องพักฟื้น โดยผู้ที่เหมาะกับการรับบริการใช้เครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อ HI-EMT ได้แก่
- ผู้ที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย แต่ต้องการลดไขมันและเพิ่มกล้ามเนื้อ
- ผู้ที่มีปัญหาก้นหรือปั้นท้ายหย่อนคล้อย
- ผู้ที่ออกกำลังกาย และต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังกายให้ดีขึ้น
- ผู้ที่มีปัญหาปวดหลัง เพราะสามารถช่วยเพิ่มความแข็งแรงของแกนกลางลำตัว ลดอาการปวดหลังได้
- ผู้ที่ไม่สามารถออกกำลังกายแบบ Weight Training ได้แต่ต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อและลดไขมัน
- คุณแม่หลังคลอดบุตรมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ที่ต้องการลดไขมันหน้าท้อง กระชับหน้าท้อง เพิ่มกล้ามเนื้อให้หน้าท้องแข็งแรง เฟิร์มเหมือนเดิม
หลักการทำงานของ HI-EMT
เครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อ HI-EMTเป็นเทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ใช้หลักการทำงานในการกระตุ้นให้เกิดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ เหมือนเวลาออกกำลังกาย กล้ามเนื้อจะมีการหดตัวด้วยพลังคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มีน้ำหนักสูงสุดและความถี่สม่ำเสมอ 20,000 ครั้ง ในเวลาเพียง 30 นาที ซึ่งการหดและคลายตัวของกล้ามเนื้อจะช่วยเผาผลาญสลายไขมัน ลดไขมันได้มากกว่า และกระตุ้นการสร้างมวลกล้ามเนื้อ เพิ่มกล้ามเนื้อใหม่ได้ในเวลาสั้น โดยการทำ HI-EMT สัปดาห์ละ 2 ครั้ง จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงหลังทำต่อเนื่อง 4-6 ครั้ง
การใช้ HI-EMT รักษากล้ามเนื้อแยก
จากงานวิจัยในต่างประเทศเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีHI-EMT รักษากล้ามเนื้อหน้าท้องแยก แสดงให้เห็นว่า การติดตามผลการศึกษาในผู้มีปัญหากล้ามเนื้อแยกจำนวน 22 คน โดยใช้ HI-EMT ช่วยสลายไขมัน กระตุ้นกล้ามเนื้อหน้าท้อง จำนวน 4 ครั้งติดต่อกัน พบว่า กล้ามเนื้อมีความหนาแน่นเพิ่มขึ้นถึง 15.4%, ความหนาของชั้นไขมันลดลงถึง 18.6% ช่วยลดภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกและอ่อนแรงลงได้ถึง 10.4% และรอบเอวมีขนาดลดลงเฉลี่ย 3.8 เซนติเมตร

การทำ HI-EMT สามารถทำบ่อยได้แค่ไหน
การใช้เครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อ HI-EMTสามารถทำได้บ่อยประมาณ 2 วันต่อครั้ง หรือ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง โดยระยะเวลาที่ทำครั้งละ 30 นาที และควรทำต่อเนื่อง 4-6 ครั้ง จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการประเมินและแนะนำของแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น สามารถทำซ้ำเพื่อให้ผลลัพธ์คงอยู่ หลัง 2-3 เดือนขึ้นไป
อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาของผลลัพธ์จากการใช้เครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อ HI-EMTจะขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการลดไขมัน เพิ่มกล้ามเนื้อใหม่ เช่น กล้ามเนื้อหน้าท้อง หรือกล้ามเนื้อสะโพก หรือกล้ามเนื้อแขน สามารถเห็นผลเมื่อทำ 4-6 ครั้ง และผลชัดเจนขึ้นเมื่อทำ 8 ครั้ง และการคงอยู่นานของผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่ก่อให้เกิดการสะสมของไขมันใหม่ เป็นต้น
การทำ HI-EMTสามารถทำบริเวณไหนได้บ้าง
- การใช้เครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อ HI-EMT ลดไขมัน เพิ่มกล้ามเนื้อ บริเวณกล้ามเนื้อหน้าท้อง
- การใช้เครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อ HI-EMTลดไขมัน เพิ่มกล้ามเนื้อ บริเวณกล้ามเนื้อแขน ขา น่อง
- การใช้เครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อ HI-EMT ลดไขมัน เพิ่มกล้ามเนื้อ บริเวณกล้ามเนื้อสะโพก
- การใช้เครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อ HI-EMTลดไขมัน เพิ่มกล้ามเนื้อ บริเวณกล้ามเนื้อก้น ปั้นท้าย

การทำ HI-EMT เจ็บไหม
ขณะที่ใช้เครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อ HI-EMTลดไขมัน กระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อ จะไม่ทำให้เจ็บ ร้อนหรือแสบบนผิว แต่จะรู้สึกกล้ามเนื้อบีบและคลายตัวเป็นระยะๆ หลังจากทำจะรู้สึกเมื่อยล้า เนื่องจากกลไกการทำของ เครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อ HI-EMT เลียนแบบการออกกำลังกาย เพียง 30 นาที เทียบกับการซิทอัพหรือสควทถึง 20,000 ครั้ง และสามารถทำให้กล้ามเนื้อมีการหดและคลายตัวได้ถึง 36,000 ครั้ง
ผลที่ได้หลังจากการทำ HI-EMT
ผลลัพธ์จากการใช้เครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อ HI-EMTในเวลาเพียง 30 นาที เพื่อลดไขมัน กระชับหน้าท้อง เพิ่มกล้ามเนื้อ จะก่อให้เกิดผล ดังนี้
- กระตุ้นกล้ามเนื้อหดและคลายได้ถึง 36,000 ครั้ง เทียบเท่ากับ การซิทอัพ หรือสควท 20,000 ครั้ง
- กระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อ 16%
- ลดไขมันส่วนเกินได้ 19%
- กระตุ้นการเผาผลาญพลังงานให้ดีขึ้น
- กระตุ้นการไหลเวียนของระบบเลือดและน้ำเหลือง
- ทำให้ร่างกายแข็งแรงและทนทานมากขึ้น
- กระชับหน้าท้อง ลดไขมันหน้าท้อง ลดหน้าท้องย้วย หน้าท้องหย่อยคล้อยได้เร็วขึ้น
ข้อสรุป
นอกจากเครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อ HI-EMT จะช่วยเผาผลาญไขมันและกระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อแบบเร่งด่วนแล้ว ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาให้กับคนที่มีภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง ภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยกได้อย่างเห็นผลลัพธ์ชัดเจน โดยเฉพาะคุณแม่หลังคลอดที่มีไขมันหน้าท้องมาก ทำให้หน้าท้องหย่อนคล้อย หน้าท้องย้วย เครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อ HI-EMT เป็นอีกทางเลือกของคุณแม่ยุคใหม่ในการกระชับหน้าท้อง ลดไขมัน เพิ่มกล้ามเนื้อให้แข็งแรง เพื่อคงรูปร่าง สัดส่วน ให้เฟิร์ม แลดูสุขภาพดี สามารถมั่นใจในรูปร่างได้เหมือนก่อนคลอดโดยไม่ต้องรอนานอีกต่อไป



