Q-SWITCH ND Yag รักษาฝ้า กระ ลดจุดด่างดำ ช่วยให้ผิวกระจ่างใส
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญนิยมใช้ Q-Switch Laser เพื่อรักษาฝ้า กระ และอาการต่างๆที่เกิดจากความผิดปกติของเม็ดสีบนผิวหนัง เนื่องจากเลเซอร์ชนิดนี้สามารถตรงเข้าไปทำลายเม็ดสีเมลานินที่เราไม่ต้องการ ภายในเซลล์ผิวหนัง โดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผิวหนังและบริเวณใกล้เคียง จึงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง
Q-switch Laser คืออะไร
Q-Switch Laser คือ การรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ รักษารอยดำคล้ำ ความเสียหายบนใบหน้าที่เกิดจากแสงแดด และรอยสักด้วยการใช้เลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นต่างๆกัน ขณะที่ใช้ Q-Switch Laser เพื่อรักษารอยด่างดำที่เกิดจากความผิดปกติของเม็ดสีหรือเมลานิน รวมไปถึงจุดแก่หรือจุดด่างดำที่เกิดตามวัย กระ รอยคล้ำไหม้และปานบางชนิด เลเซอร์ฝ้า กระชนิดนี้จะตรงเข้าไปยังเม็ดสีบริเวณจุดด่างดำที่อยู่ในผิวหนังชั้นกำพร้าและชั้นหนังแท้ เพื่อให้เม็ดสีเหล่านั้นดูดซับและเปลี่ยนพลังงานแสงจาก Q-Switch Laser ให้เป็นพลังงานความร้อนเพื่อทำลายเม็ดสีเป้าหมายให้แตกตัวและถูกกำจัดออกไป โดยไม่ทำอันตรายต่อผิวหนังโดยรอบ
Q-Switch Laser ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ฟื้นฟูและปรับสภาพผิวหน้าที่มีแผลเป็นจากสิวได้อีกด้วย นอกจากจะช่วยลบเลือนจุดด่างดำ ยังช่วยลดร้ิวรอยและรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า รวมถึงช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลง ทำให้ผิวหน้ากลับมาเนียนใส แลดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ
Q-switch ชนิดความยาวคลื่น 532
Q-Switch Laser ชนิดความยาวคลื่น 532 นาโนเมตร มีวัตถุประสงค์เพื่อลบรอยสักสีแดง ปานแดง ฝ้ากระสีน้ำตาลจ่างๆ ซึ่งจะเน้นการทำลายเม็ดสีที่อยู่ในผิวหนังชั้นตื้น ช่วยลดความหมองคล้ำ ลดเลือนจุดด่างดำ แก้ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียน กระจ่างใส โดยไม่ทำให้ผิวหนังได้รับความเสียหาย
Q-switch ชนิดความยาวคลื่น 1064
Q-Switch Laser ชนิดความยาวคลื่น 1064 นาโนเมตร มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับสภาพผิวที่ถูกทำลายจากแสงหรือรังสียูวีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้สำหรับลบรอยสักสีดำหรือสีน้ำเงิน ปานดำ กระแดดสีเข้ม รวมถึงปัญหาเส้นเลือดขอด โดยไม่ทำให้ผิวชั้นบนและบริเวณข้างเคียงเสียหาย ไม่เกิดแผลเป็นหลังการรักษา ไม่ต้องพักฟื้น ปลอดภัย ไม่เจ็บปวด และไม่มีผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ใดๆ
Q-switch Laser เหมาะกับใช้การรักษาปัญหาผิวแบบใดบ้าง
Q-Switch Laser เป็นเลเซอร์ฝ้า กระที่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวต่อไปนี้
- ผู้มีปัญหาฝ้า ทั้งลึกและตื้นหรือฝ้าที่ดื้อยา
- ผู้ที่มีปัญหากระ กระลึก กระตามวัย หรือกระแดด
- ผู้ที่ต้องการลบรอยสัก ปานโอตะ ปานแดง ปานดำหรือปานน้ำตาล
- ผู้ที่มีปัญหาแผลเป็นหรือรอยดำจากสิว
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหน้ามีรอยคล้ำจากแดดและรังสียูวี
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย รอยเหี่ยวย่น รูขุมขนกว้าง
- ผู้ที่มีริมฝีปากดำคล้ำ ขอบตาหรือใต้ตาดำ ผิวใต้วงแขนดำ
Q-switch Laser มีความปลอดภัยไหม
Q-Switch Laser เป็นนวัตกรรมที่มีงานวิจัยทางการแพทย์ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกมากมาย รวมถึงได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา ยุโรป เกาหลีและประเทศไทย จึงมั่นใจได้ว่า Q-Switch Laser เป็นเลเซอร์รักษาฝ้า กระที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง หลังทำการรักษา ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น ไม่มีผลข้างเคียงหรืออาการไม่พึงประสงค์แต่อย่างใด
ข้อปฏิบัติก่อน และหลังการทำ Q-switch Laser
หลังการทำ Q-Switch Laser ผู้รับบริการสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยไม่ต้องพักฟื้น แต่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาและเพื่อผลลัพธ์สูงสุด จึงมีข้อปฏิบัติดังต่อไปนี้
- ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหรือสครับผิวที่ออกฤทธิ์รุนแรง ผลิตภัณฑ์ฟอกหรือเปลี่ยนสีผิวและเรตินอยด์ (Retin A) ก่อนและหลังรับบริการ 3 วัน
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรงเป็นเวลา 2 สัปดาห์
- ทาครีมกันแดด SPF50+++ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันผลข้างเคียงเมื่อต้องสัมผัสแสงแดด
- หลังการรักษา อาจจะเกิดรอยแดงเล็กน้อย ซึ่งเป็นเรื่องปกติ สามารถประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการแสบร้อน ซึ่งรอยแดงเหล่านั้นจะตกสะเก็ดและหลุดออกไปเอง
- ทำความสะอาดผิวด้วยน้ำอุ่น หลีกเลี่ยงความร้อนจัด เช่น ซาวน่า หรือเตาปิ้ง ย่างอย่างน้อย 72 ชั่วโมงหลังการรักษา
การทำ Q-switch Laser ควรทำบ่อยแค่ไหน
โดยทั่วไปการทำ Q-Switch Laser เพื่อรักษาฝ้า กระและจุดด่างดำ หรือรักษาปัญหาเม็ดสีที่ผิดปกติจะจางลงหลังจากทำเลเซอร์อย่างต่อเนื่อง 4-5 ครั้ง โดยจำนวนครั้งในการรักษาจะขึ้นอยู่กับปัญหาสภาพผิว ความลึกของเม็ดสีของฝ้า กระของแต่ละบุคคล สำหรับการรักษารอยดำหรือรอยแดงจากสิว จะเกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจนจากการรักษาได้ทันที และหากได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง Q-Switch Laser จะช่วยฟื้นฟูโครงสร้างของผิว กระตุ้นการเกิดคอลลาเจน ทำให้ผิวหน้าแข็งแรง มีความยืดหยุ่น แลดูอ่อนกว่าวัยอยู่เสมอ
ขั้นตอนการทำ Q-switch Laser ในการรักษา
การรักษาฝ้า กระด้วย Q-Switch Laser มีขั้นตอนดังต่อไปนี้
- ก่อนการรักษา แพทย์จะอธิบายขั้นตอนการทำ Q-Switch Laser ทีละขั้นตอน และตอบข้อกังวลใจทั้งหมดของผู้รับการรักษา
- แพทย์ขอความยินยอมในการรับการรักษาเป็นลายลักษณ์อักษร
- ก่อนทำการรักษา จะต้องล้างเครื่องสำอางและทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด
- สวมที่ครอบตาเพื่อป้องกันดวงตาจากลำแสงของเลเซอร์
- ก่อนเริ่มขั้นตอนการรักษาจริง แพทย์จะประเมินการตอบสนองของผิว ที่บริเวณจุดทดสอบก่อน จากนั้นรอระยะเวลาที่เหมาะสมเพื่อสังเกตปฏิกิริยาของผิว เพื่อกำหนดตัวแปรที่มีผลต่อการรักษา โดยคำนึงถึงประเภทผิวของผู้ป่วย ความทนทานต่อความรู้สึกไม่สบายผิว อาการแพ้ที่อาจจะเกิดขึ้น และประสิทธิภาพในการรักษา เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้ผลลัพธ์ตามต้องการ โดยมีโอกาสผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์น้อยที่สุด
- แพทย์จะต้องตรวจสอบให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ในการรักษาทั้งหมดจะต้องผ่านการฆ่าเชื้อและแพทย์จะต้องสวมถุงมือและหน้ากากอนามัยทุกครั้งก่อนเริ่มการรักษา
- ในบางกรณีแพทย์อาจจะพิจารณาการใช้ยาชาเฉพาะที่
- เริ่มใช้เลเซอร์ฝ้า กระในการรักษา โดยใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ระหว่างทำอาจมีอาการแสบร้อน หรือเจ็บจี๊ดบริเวณที่ถูกแสงเลเซอร์ แต่เป็นระดับความเจ็บแบบทนได้ ทั้งนี้ความเจ็บปวดจะขึ้นอยู่กับบริเวณที่ยิงเลเซอร์ด้วย หากผิวบริเวณนั้นบอบบาง ก็จะไวต่อความรู้สึกเจ็บมากกว่า
- ในบางกรณีอาจจะใช้แผ่นเจลเย็น/ลมเย็นก่อน, ระหว่างหรือหลังการรักษา เพื่อลดความรู้สึกไม่สบายผิวและบรรเทาอาการบวมแดง หลังการรักษา หากคนไข้รู้สึกเจ็บมาก แพทย์อาจจะยุติกระบวนการรักษา และประเมินอาการใหม่อีกครั้ง
รีวิวการทำเลเซอร์ พระเอกข้าวตู
การดูแลผิวหลังการทำ Q-switch Laser
หลังรักษาฝ้า กระ Q-Switch Laser หรือเลเซอร์หน้าใส มีคำแนะนำในการปฏิบัติตัวดังต่อไปนี้
- ทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น
- ดื่มน้ำอย่างน้อยวัน 1-2 ลิตร เพื่อคงความชุ่มชื้นให้กับผิวพรรณ
- หลีกเลี่ยงการออกแดดจัด และทาครีมกันแดด SPF50+++ ขึ้นไปอย่างสม่ำเสมอ
- ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าอย่างน้อย 2 วัน งดการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ออกฤทธิ์รุนแรง
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสเสียดสีใดๆ บริเวณที่ทำการรักษา
- ในบางกรณีแพทย์อาจจะพิจารณาให้ยาต้านการอักเสบหรือยาปฏิชีวนะเพื่อลดอาการปวด บวมและโอกาสการติดเชื้อ
- เลี่ยงการใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์อย่างน้อย 3 วันและผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งดการใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวทุกชนิดอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- ใช้ครีมลบเลือนจุดด่างดำหรือครีมรักษาสิวที่กำหนดอย่างน้อย 3 วันหลังจากทำการรักษา
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนจัด ซาวน่า หรือว่ายน้ำในสระที่มีคลอรีนสูง
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก การสูบบุหรีหรือการดื่มแอลกอฮอล์
- หากเกิดปฏิกิริยาไม่พึงประสงค์ใดๆควรแจ้งแพทย์ให้ทราบในทันที แต่อาการข้างเคียงส่วนใหญ่ที่เกิดนั้นมักไม่รุนแรง และเกิดขึ้นชั่วคราวเท่านั้น
คำถามที่พบบ่อย
การรักษาฝ้า กระ จะหายขาดเลยไหม
ประสิทธิภาพในการรักษาด้วยเลเซอร์ฝ้ากระ หรือ Q-Switch Laser จะขึ้นอยู่กับสีและประเภทของผิวของแต่ละคน บางกรณีอาจจะต้องทำการรักษาหลายครั้งในช่วง 2-8 สัปดาห์แรก ขึ้นอยู่กับข้อบ่งชี้ในการรักษา ดังนั้นจำนวนครั้งของแต่ละคนอาจจะต่างกันออกไป แต่โดยเฉลี่ยคนไข้ส่วนใหญ่จะทำประมาณ 4-5 ครั้งจึงจะได้ผลลัพธ์ตามต้องการ
นอกจากนี้พฤติกรรมการดูแลตัวเองหลังรับการรักษาก็เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นมาก เพราะฝ้า กระและจุดด่างดำสามารถเกิดขึ้นได้ใหม่ตลอดเวลา ดังนั้นคนไข้จึงจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่กระตุ้นให้เกิดฝ้า กระและจุดด่างดำเหล่านั้นขึ้นมาอีก
การทำ Q-switch Laser ควรทำการรักษากี่ครั้ง
ผลลัพธ์จากการทำ Q-Switch Laser ขึ้นอยู่กับสีผิว ประเภทของผิวคนไข้ และจำนวนและความลึกของฝ้า กระหรือจุดด่างดำด้วย หากเป็นกระลึกอาจจะต้องยิงเลเซอร์มากกว่าคนไข้ที่เป็นกระตื้น โดยเฉลี่ยจะต้องทำประมาณ 4-5 ครั้งจึงจะเห็นผลสำหรับการรักษาฝ้า กระ แต่หากเป็นการรักษารอยดำหรือรอยแดงจากสิว เพียงแค่ครั้งแรกคุณก็จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
การทำ Q-switch Laser หากหยุดทำ ฝ้า กระ จะกลับมาเป็นอีกไหม
อย่างที่ทราบกันดีว่า ปัจจัยที่ทำให้เกิดฝ้า กระและจุดด่างดำมีมากมาย ทั้งแสงแดด, ฮอร์โมน, อายุ, พฤติกรรมต่างๆ ดังนั้นการที่มีฝ้า กระหรือจุดด่างดำเกิดขึ้นอีกหลังจากทำ Q-Switch Laser จึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ ไม่เกี่ยวข้องกับการทำ Q-Switch Laser แต่อย่างใด คนไข้จึงควรดูแลตนเองหลังจากรักษา หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆเพื่อชะลอการเกิดฝ้ากระให้ช้าที่สุด
การทำ Q-switch Laser สามารถโดนแดดได้ไหม
หลังการทำ Q-Switch Laser หรือเลเซอร์หน้าใส ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดๆ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ เนื่องจากหลังทำผิวหน้ายังคงบอบบาง ระคายเคืองได้ง่าย ควรงดทั้งการออกแดดหรือปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้เกิดการระคายเคือง
ข้อสรุป
Q-Switch Laser เป็นนวัตกรรมรักษาฝ้า กระที่มีประสิทธิภาพสูงในการลดเลือนจุดด่างดำต่างๆ บนใบหน้า อีกทั้งยังปลอดภัย ได้รับการยอมรับจากแพทย์ผิวหนังทั่วโลก จึงเป็นอีกทางเลือกในการรักษาฝ้า กระและจุดด่างดำ รวมไปถึงรอยแผลเป็นจากสิว และรอยสัก เพื่อให้ผิวหน้าเรียบเนียน กระจ่างใส โดยไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น และโอกาสเกิดอาการไม่พึงประสงค์ยังน้อยอีกด้วย