กดสิวแล้วสิวหายจริงไหม ช่วยเรื่องอะไรบ้าง หลังกดกี่วันหาย

เชื่อว่าปัญหาการเกิดสิว เป็นปัญหาหนักใจของทั้งคุณผู้ชายและคุณผู้หญิง ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยต่าง ๆ ทั้งวัยรุ่น,วัยทำงาน หรือจะมีอายุมากขึ้นเลยวัยกลางคนแล้วก็ตาม แต่ก็อาจจะเกิดสิวได้จากปัจจัยภายในร่างกาย ทั้งเรื่องของฮอร์โมน ความเครียด พักผ่อน มีสภาวะร่างกายผิดปกติอยู่ช่วงมีประจำเดือน  หรือเกิดจากปัจจัยภายนอก เช่นอากาศร้อน ฝุ่นละออง หรือรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ดื่มน้ำอัดลง  ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้เกิดสิวขึ้นได้ โดยหลายคนมีคำถามคาใจ หากเป็นสิวจะทำการแก้ปัญหาด้วยการกดสิวจะดีไหม และมีผลอย่างไรทำให้เกิดรอยสิวหรือแผลเป็นหรือไม่ โดยเราจะมาไขปัญหาคาใจเรื่องการกดสิวให้กระจ่างกัน

 การกดสิวควรทำไหม ช่วยอะไร

การกดสิว เป็นการรักษาสิวด้วยการกดให้หัวสิวที่อุดตันอยู่ภายในผิวหนังของเรานั้นให้หลุดออกไป  การกดสิวจึงเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิง เพราะหากไม่นำหัวสิวออกมาก็จะทำให้เกิดปัญหาสิวอุดตันหรือสิวอักเสบได้ในอนาคต ซึ่งก่อนที่เราจะทำการรักษาสิวด้วยวิธีการกดสิว เราจะต้องทำความเข้าใจในประเภทของสิวที่เกิดขึ้นก่อน ว่าสิวแบบใดที่สามารถรักษาด้วยวิธีการกดสิวแล้วได้ผลดี เพราะสิวบางประเภท ไม่ควรจะใช้วิธีการกดสิว เนื่องจากใช้วิธีนี้แล้วไม่ได้ผล แต่ควรใช้วิธีการอื่น ๆ รักษาเช่นการฉีดสิว การใช้ยาทาสิว หรือการใช้เลเซอร์รักษาสิว จึงจะเหมาะสมกว่าวิธีการกดสิว อีกทั้งยังทำให้ไม่เกิดรอยสิวหรือแผลเป็นที่จะตามมาภายหลัง

กดสิว

สิวประเภทไหนที่กดไม่ได้

เมื่อเราไปรักษาสิวโดยแพทย์ที่มีความชำนาญ ทางแพทย์ก็จะวิเคราะห์สิวที่เกิดขึ้นและเลือกวิธีการรักษาสิวที่เหมาะสม  สิวบางประเภทจะไม่ใช่วิธีการกดสิว อย่างเช่น สิวที่ไม่เห็นหัวสิว, สิวที่ภายในมีเลือดคั่ง ทำให้ผิวหนังมีสีม่วงช้ำ หรือสิวที่เป็นตุ่มหนองขนาดใหญ่ ทางแพทย์จะเลือกที่จะรักษาสิวด้วยวิธีการอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดสิว,ใช้ยาทาสิว หรือการใช้เลเซอร์รักษาสิว จะเหมาะสมกับสิวประเภทดังกล่าวมากกว่าวิธีการกดสิวเพื่อรักษา

สิวที่ไม่ควรกด

สิวประเภทไหนที่กดออกได้

การรักษาสิวด้วยวิธีการกดสิว มักจะใช้กับสิวประเภทที่เกิดจากการอุดตันสะสมของน้ำมันบนใบหน้า ทำให้เซลล์ผิวหนังเก่าหมักหมมลงในรูขุมขน เกิดเป็นหัวสิวที่มองเห็นได้ชัดเจน เช่นสิวหัวดำและสิวหัวขาว  โดยสิวทั้ง 2 ประเภทนี้ เมื่อใช้วิธีการกดสิวจะไม่เกิดการอักเสบ และติดเชื้อได้ หลังจากที่กดสิวไปแล้ว  อย่างไรตาม วิธีการกดสิวก็จะมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่จะต้องพิจารณาเพื่อการรักษาดังต่อไปนี้

สิวที่กดได้

ข้อดี – ข้อเสียของการกดสิว

ข้อดีของการรักษาสิวด้วยการกดสิวคือวิธีการนี้สามารถกำจัดหัวสิวที่อุดตันในผิวหนังได้อย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับวิธีการรักษาแบบอื่นๆทั้งการฉีดสิวการใช้ยาทาสิวหรือการใช้เลเซอร์รักษาสิว เนื่องจากวิธีการดังกล่าวผู้ที่รักษาสิวอาจจะเกิดการเเพ้ยาหรือได้รับผลข้างเคียงการใช้ยาและเลเซอร์รักษาสิว ซึ่งส่งผลต่อผิวหนังทำให้ผิวแห้งตึง หรือส่งผลเสียต่อระบบเลือดได้เช่นกัน ดังนั้นการกดสิวจึงถือเป็นวิธีการรักษาสิวที่เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายอีกทั้งยังไม่เกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยาและสารเคมีนั่นเอง  โดยหากมีการกดสิวอย่างถูกวิธีแผลที่เกิดจากการกดสิวก็จะหายไปตามธรรมชาติภายในเวลา 2-3 วัน หรือไม่เกิน 1 สัปดาห์  นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันไม่ให้มีปัญหาการเกิดสิวขึ้นใหม่ได้อีกด้วย 

อย่างไรก็ตามการกดสิว ก็มีข้อเสียที่จะต้องพิจารณาก่อนที่จะทำการรักษาด้วยวิธีการนี้ นั่นคือ

ข้อเสียของการกดสิว อาจจะทำให้เกิดการอักเสบต่อผิวหนังได้ หากกดสิวอย่างไม่ถูกวิธีหรือกดหัวสิวออกจากผิวหนังไม่หมดนอกจากนี้การกดสิวยังมีข้อเสียนั่นคืออาจทำให้เกิดรอยดำที่ผิวหนังทั้งนี้เนื่องจากการกดสิวอย่างไม่ถูกวิธีและไม่มีความสะอาดอย่างเพียงพอจะทำให้ยังมีร่องรอยดำหลงเหลือที่ผิวหนัง และหากกดหัวสิวไม่หมดก็อาจจะเกิดการอักเสบได้ในภายหลังที่ทำการรักษา

เมื่อเราพิจารณาจากข้อเสียของการกดสิวดังนั้นจึงควรใช้การกดสิวโดยแพทย์ที่มีความชำนาญและไม่ควรจะทำการกดสิวด้วยตนเอง

ข้อสรุป

เราได้มาไขปัญหาคาใจเรื่องการกดสิวให้กระจ่างกันแล้วหวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาสิวที่เป็นปัญหาน่ารำคาญใจของใครหลายคน และเชื่อว่าปัญหาสิวก็จะเบาใจลงไป เมื่อเรามีการเลือกใช้วิธีการรักษาอย่างถูกวิธี ไม่ว่าจะเป็นการกดสิว,การฉีดสิว,ใช้ยาทาสิวหรือการใช้เลเซอร์รักษาสิว แต่อย่างไรก็ตาม การป้องกันก็ดีกว่าการรักษาและแก้ไข หากเราไม่เป็นสิวก็จะดีกว่า โดยเราจะต้องรักษาความสะอาด หมั่นล้างหน้าบ่อย ๆ  ทำอารมณ์ให้แจ่มใส ลดความเครียด ด้วยการออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงอ รวมทั้งการรับประทานอาหารให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันมากเกินไป ที่เสี่ยงต่อการทำให้เกิดสิว เพียงเท่านี้ เรื่องของปัญหาสิวก็จะเป็นปัญหาชิล ๆ ที่เราสามารถแก้ไขได้