ฟิลเลอร์คืออะไร

ฟิลเลอร์คืออะไร รวมสิ่งที่ต้องรู้ก่อนการเตรียมตัวฉีด

ปัญหาของผิวหน้าเมื่อมีอายุมากขึ้น ก็จะเห็นริ้วรอยบนใบหน้าชัดขึ้น ร่องลึก หน้าตอบ ริ้วรอยใต้ตา หรือสำหรับคนที่มีปัญหาต้องการปรับรูปหน้า การแก้ไขปัญหาบนใบหน้าด้วยการฉีดฟิลเลอร์เป็นการเติมสารเติมเต็มที่เดิมนั้นมีอยู่แล้วในชั้นผิวหนัง ให้มาเติมในจุดต่าง ๆ บนใบหน้า  เป็นสารอุ้มน้ำ การเติมสารในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มการอุ้มน้ำให้กับผิว ทำให้ช่วยลดริ้วรอย ร่องตาลึกดูตื้นขึ้น ดูสดชื่นมีน้ำมีนวลอย่างเป็นธรรมชาติ ส่วนคนที่ต้องการปรับรูปหน้าหลังการฉีดฟิลเลอร์ ใบหน้าจะกระชับได้รูป ผลลัพธ์ที่ได้จากฉีดฟิลเลอร์นั้นจะทำให้เราได้รูปหน้าที่กระชับ ผิวสดใส ดูอ่อนกว่าวัยและมั่นใจมากขึ้น

 ฟิลเลอร์ คืออะไร

ฟิลเลอร์ คืออะไรเป็นสารเติมเต็มผิว ประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ HA ซึ่งมีความปลอดภัยและได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)แล้ว สารเติมเต็มนี้เป็นสารประเภทอุ้มน้ำที่มีอยู่ตามธรรมชาติใต้ผิวหนังบนใบหน้าอยู่แล้ว แต่เมื่ออายุมากขึ้นหรือผิวที่ไม่ได้รับการบำรุงอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ ทำให้เกิดปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้น มีริ้วรอยบริเวณใต้ตา ร่องตาลึก ร่องแก้มเห็นริ้วรอยชัด หน้าตอบเพราะผิวขาดน้ำ

นอกจากการฉีดฟิลเลอร์จะช่วยแก้ปัญหาลดริ้วรอย ยังช่วยปรับรูปหน้า เติมคาง เติมปาก หรือเติมหน้าผากให้รับกับใบหน้า เพื่อสัดส่วนที่เหมาะสม สวยงาม ใบหน้าจะกระชับได้รูป

restylane

 ประเภทของฟิลเลอร์

ฉีดฟิลเลอร์นั้นจะช่วยทำให้ผิวหน้าที่มีปัญหาริ้วร้อยกลับมาเต่งตึง อ่อนเยาว์ลง ลดริ้วรอย อีกทั้งฟิลเลอร์มีคุณสมบัติเรื่องของการอุ้มน้ำบนใบหน้า จึงจะเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง แล้วยังช่วยให้ริ้วรอยที่จะเกิดขึ้นในอนาคตน้อยลงด้วย

ซึ่งประเภทของการฉีดฟิลเลอร์ แบ่งได้ดังนี้

ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว (Temporary filler) 

ก็คือสารที่เป็น กลุ่มสาร Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งจะสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ สารนี้นั้นจะมีอยู่ในผิวเราตามธรรมชาติอยู่แล้ว เมื่อเรามีอายุมากขึ้นสารตัวนี้จะลดน้อยลงและมีการเสื่อมสภาพได้ตามอายุ โดยจะคงประสิทธิภาพได้นานประมาณ 4-6 เดือนจนถึง 1 ปีครึ่ง หรืออาจถึง 2 ปี เป็นฟิลเลอร์ที่มีปลอดภัยสูง เพราะการฉีดสารไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าสู่ร่างกายจึงมีโอกาสแพ้น้อยมาก ฉีดฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหลาย ๆ ประเทศ สามารถฉีดเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ เพราะ สาร Hyaluronic Acid อยู่ในผิวหนังตามธรรมชาติอยู่แล้ว เมื่ออายุมากขึ้น คอลลาเจนใต้ผิวก็ลดน้อยลง ผิวหนังชั้น SMAS ก็มีการเปลี่ยนไป และ Retaining ligaments หรือเส้นเอ็นยึดผิวต่าง ๆ หย่อนคล้อยลง การฉีดฟิลเลอร์จึงถือเป็นสร้างขึ้นมา

 ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร (Semi Permanent filler)

ซึ่งจะเป็นสารโพลีอัลคิลลิไมด์ (Polyakylimide) และสาร PMMA (Polymethyl-methacrylate) โดยจะมีอายุการใช้งานได้ยาวกว่าการฉีดฟิลเลอร์ประเภทชั่วคราว สามารถอยู่ได้นาน 2 – 5 ปี ในด้านความปลอดภัยนั้นอยู่ในระดับปานกลาง ถือว่าเป็นสารที่ให้ผลลัพธ์นานและไม่สลายไปจากใบหน้า 100 % จึงมีโอกาสที่เกิดผลข้างเคียงได้มากกว่า ด้วยร่างกายของเราจะมองว่าฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวรนี้นั้นเป็นสิ่งแปลกปลอม ทำให้อาจจะเกิดการแพ้ได้

ฟิลเลอร์แบบถาวร (Permanent filler) 

ได้แก่ ซิลิโคน หรือ พาราฟิน เป็นสารจำพวก Polymethyl Methacrylate (PMMA), สาร Polyacrylamide ซึ่งเป็นสารที่เราฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังแล้วจะไม่สลายตัว 100% ทำให้อยู่บนใบหน้า มีความอันตรายในการใช้ จะเกิดอาการข้างเคียง ข่าวที่เราจะได้ยินว่าฉีดฟิลเลอร์แล้ว รูปหน้าเบี้ยว เป็นก้อน ส่วนมากมักจะเกิดจากฟิลเลอร์ชนิดถาวรนั่นเอง

ประเภทของฟิลเลอร์

 การฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้า

ฉีดฟิลเลอร์เพื่อยกกระชับใบหน้า จะเป็นการฉีดเพื่อเข้าไปช่วยให้คอลลาเจนที่อยู่ใต้ผิวหนังที่เสื่อมไปนั้น ผลลัพธ์ที่ได้จะทำใบหน้านั้นยกกระชับ มีความยืดหยุ่น ชุ่มน้ำ ทำให้ร่องตาลึก ร่องแก้มนั้นตื้นขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับใบหน้านั้น ซึ่งเราไม่ต้องรอให้อายุเยอะ จนสารอุ้มน้ำหรือคอลลาเจนใต้ผิวเสื่อมสภาพแล้วค่อยมาฉีด สำหรับใครที่จัดฟัน ถอนฟัน ซึ่งอาจจะส่งผลให้หน้าตอบ ถ้าเราฉีดฟิลเลอร์แล้วก็จะเป็นการเติมน้ำให้ใบหน้าให้ได้สัดส่วนที่สวยงามขึ้น


  ฟิลเลอร์ เหมาะสำหรับใคร 

เหมาะกับปัญหาผิวที่มีริ้วรอยร่องลึก ในบริเวณต่าง ๆ ของใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นหน้าผาก ร่องตาลึก ร่องแก้ม

  • เหมาะกับการปรับแต่งของรูปหน้า ไม่ว่าจะเป็นการฉีดฟิลเลอร์ ปาก เพื่อเติมริมฝีปากหรือ เติมร่องแก้ม หรือจะปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กลงได้
  • เหมาะกับการจะคงความอ่อนเยาว์ ให้ดูสดใส และเปล่งปลั่งมาก
  • เหมาะกับปัญหาเรื่องรูขุมขนกว้าง ไม่กระชับ มีหลุมสิวบนใบหน้า
ฉีดฟิลเลอร์

  ตำแหน่งที่นิยมฉีดฟิลเลอร์

 ฉีดฟิลเลอร์บริเวณหน้าผากแบน ให้เติมเต็มดูมีโหงวเฮง

  •  ฟิลเลอร์ขมับ สำหรับคนที่มีขมับบุ๋ม เต็มเนื้อขึ้นมา
  • ฉีดฟิลเลอร์ ใต้ตาเพื่อแก้ปัญหาใต้ตาลึกคล้ำ ร่องน้ำตาลึก
  •  ฟิลเลอร์บริเวณแก้มเพื่อแก้ปัญหาแก้มตอบ แก้มแบน
  • ฟิลเลอร์ร่องแก้มเพื่อแก้ปัญหาร่องแก้มลึก
  • ฟิลเลอร์บริเวณคางแก้ปัญหาคางสั้น คางตัด
  • ฉีดฟิลเลอร์ ปากสำหรับแก้ปัญหาปากบาง ไม่ได้รูป

 ฟิลเลอร์ฉีดแล้วอันตรายไหม 

อันตรายที่อาจจะเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์นั้น อาจจะเกิดอุดตันในเส้นเลือดหรือเส้นประสาทบนบนใบหน้า เป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการเนื้อตาย จากการที่เลือดไม่สามารถไปหล่อบริเวณนั้น หรือถ้าฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในเส้นเลือดแดง แล้วฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงบริเวณดวงตา อาจจะส่งผลให้จอประสาทตาตาย (Retinal Artery Occlusion) อาจจะมีอาการปวดหัวหรือกระบอกตาร่วมด้วยทันทีหลังฉีด ส่งผลให้เกิดอาการตาพร่ามัวและตาบอด retinal artery occlusion ได้

สำหรับผู้ที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์จึงต้องเลือกคลีนิคที่ใช้สารที่ปลอดภัยตรวจสอบได้ รวมไปถึงแพทย์ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการฉีดฟิลเลอร์


 การเลือกแพทย์ในการฉีดฟิลเลอร์

 เนื่องจากอันตรายสำหรับการฉีดฟิลเลอร์นั้นมีปัจจัยจากทั้งการเลือกสารที่จะมาฉีดรวมทั้งความเชี่ยวชาญของผู้ที่จะมาฉีดฟิลเลอร์ให้กับเรา ดังนั้นเราควรจะพิจารณาแพทย์ที่จะมาทำหัตถการกับเรา

แพทย์ด้านผิวหนังเฉพาะทาง

แพทย์ที่จะมาทำการฉีดฟิลเลอร์ ควรจะเป็นแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางโดยเฉพาะเนื่องจากต้องมีความรู้โครงสร้างทางกายวิภาคของเส้นเลือด ชั้นไขมันต่าง ๆ บนใบหน้าเพื่อให้สามารถฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างแม่นยำ นอกจากนั้นการแก้ไขปัญหาในการฉีดนั้น แพทย์ผิวหนังจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบการเกิดการแพ้ยาหรือหากต้องรักษาเมื่อเกิดอาการผิดปกติขึ้น

มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์

แพทย์ที่มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์นั้น จะทำให้เชี่ยวชาญในการแก้ไขปัญหาระหว่างการฉีดมากกว่า เราอาจจะดูจากรีวิวต่าง ๆ ของแพทย์ ซึ่งควรจะสังเกตว่าเป็นรีวิวที่ไม่ได้ตกแต่งภาพแต่อย่างใด ก็จะสร้างความมั่นใจให้กับเราได้มากขึ้น

ใช้ฟิลเลอร์ของแท้

ฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ ต้องเป็นฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน มีการรับรองจากองค์การอาหารและยาจากประเทศไทย ซึ่งการเลือกใช้รุ่นของฟิลเลอร์ในตำแหน่งที่แก้ไขถูกต้อง และเหมาะสม เพื่อประสิทธิภาพของการฉีดฟิลเลอร์

ฉีดฟิลเลอร์คาง

 การตรวจเช็คฟิลเลอร์ของแท้ หรือปลอม

 อันตรายที่เกิดจากการใช้ฟิลเลอร์ปลอมนั้น มันเป็นเรื่องที่เราไม่ควรเสี่ยง ดังนั้นเราควรจะรู้ว่าจะตรวจสอบฟิลเลอร์อย่างไร ให้เป็นฟิลเลอร์แท้

1.     ให้ดูที่กล่องของฟิลเลอร์ ที่กล่องนั้นจะมีฉลากภาษาไทยบนกล่อง มีราคา มีวันหมดอายุที่สังเกตได้อย่างชัดเจน

2.     ขอแนะนำว่าไม่ควรซื้อฟิลเลอร์มาเองจากอินเตอร์เน็ต แล้วเอามาให้แพทย์หรือผู้ที่ไม่ใช่แพทย์ฉีดโดยเด็ดขาด ซึ่งฟิลเลอร์ที่หาซื้อมาจากอินเตอร์เน็ตนั้น ไม่มีความน่าเชื่อถือ ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะปลอดภัย ให้ตั้งข้อสังเกตไว้ก่อนว่าจะเป็นของปลอม

3.     ซึ่งถ้าเป็นฟิลเลอร์แท้ Hyaluronic Acid นั้นจะฉีดแล้วสลายด้วยเอ็นไซม์ไฮยาลูโรนิเดส(Hyaluronidase) ได้ 100% โดยเมื่อฟิลเลอร์สลายไปแล้ว ก็จะเกิดการยุบตัว ละลายเป็นน้ำแล้วซึมเข้าสู่ผิวหนังได้เอง จะไม่มีการตกค้าง และไม่ก่อให้เกิดอันตราย

ฟิลเลอร์นั้นเป็นสารที่ต้องควบคุม ในการเก็บรักษาต้องทำอย่างถูกต้อง แพทย์เฉพาะทางหรือมีความเชี่ยวชาญจะไม่ฉีดฟิลเลอร์ที่คนไข้นำมาเองโดยเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัยของคนไข้เอง


 ข้อปฎิบัติตัวก่อน-หลังฉีดฟิลเลอร์

  เพื่อให้การฉีดฟิลเลอร์มีประสิทธิภาพที่ดี ควรจะรู้ข้อควรปฏิบัติทั้งก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์

 ข้อควรปฎิบัติก่อนฉีดฟิลเลอร์

  • ให้หยุดยาในกลุ่มยาแอสไพริน กลุ่มยาต้านการอับเสบ NSAIDS ได้แก่ Ibuprofen, Naproxen อย่างน้อยเป็นเวลา 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด เพื่อป้องกันอาการฟกซ้ำหลังการฉีด
  • งดรับประทานวิตามินเป็นเวลา 2 สัปดาห์เช่น Vitamin E , น้ำมันปลา , น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส , สารสกัดจากโสม ขิง กระเทียม ใบแปะก๊วย ซึ่งเป็นกลุ่มวิตามินที่จะทำให้เลือดหยุดไหลยาก
  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นเวลา 1-3 วัน ก่อนฉีดฟิลเลอร์
  • ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง ไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่
  • สุขภาพแข็งแรง ไม่มีอาการป่วยไข้ หรืออาการป่วยในวันที่เข้ามาฉีด
  • ทำความสะอาดผิวหน้าเช็คเครื่องสำอางให้สะอาดก่อนที่จะเข้ามาฉีด

 ข้อควรปฎิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์

  • แนะนำว่าห้ามนวด กด รวมถึงการสัมผัสแรงๆ ในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปเคลื่อนที่ไปจากบริเวณที่ฉีด หากมีอาการคันหรือระคายเคืองห้ามเกาเด็ดขาด ถ้าหลังจากฉีดไปแล้ว 3 วัน ยังไม่หายคัน ให้เข้าพบแพทย์
  • ในระยะหลังฉีด 48 ชั่วโมง ควรระวังไม่ให้ผิวโดนแดดหรือแสงจากไฟแรง ๆ รวมถึงการห้องอบซาวน่าด้วย
  • หลีกเลี่ยงการทานวิตามิน เช่น กิงโกะ น้ำมันพริมโรส กระเทียม โสมและวิตามินอี หลังการฉีดฟิลเลอร์ เพราะกลุ่มวิตามินนี้จะมีผลต่อจะมีผลต่ออาการช้ำของผิว
  • ยาที่ควรหลีกเลี่ยงหลังการฉีดฟิลเลอร์ กลุ่มยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน และยาแก้อักเสบบางชนิด
  • ช่วง 2 -3 วัน หลังการฉีดไม่ควรแว็กซ์ขน ถอนขน ใช้ครีมกำจัดขน หรือทำการย้อมสีเส้นขน เนื่องจากเป็นช่วงที่ผิวมีความบอบบาง
  • หลังฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อยประมาณ 2-3 วัน แนะนำให้งดแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เพราะอาจจะฉีดฟิลเลอร์ ปากอาจจะทำให้ปากผิดรูป หรือทำให้การดูแลตัวเองหลังฉีดจะน้อยลง

 ข้อสรุป

ฉีดฟิลเลอร์นั้นจะช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องริ้วรอยต่าง ๆ รวมทั้งการปรับรูปหน้าได้ ซึ่งหลังการฉีดจะอยู่ได้นาน 6 เดือน – 1 ปี โดยการฉีดนั้นจะต้องเลือกฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองจากอย.อย่างถูกต้อง ไม่ควรเสี่ยงเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่มีที่มาที่ไป รวมถึงเลือกแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางและมีความเชี่ยวชาญในการรักษา เพื่อลดความเสี่ยงระหว่างการฉีดและหลังการฉีดด้วย


ฉีดฟิลเลอร์
รีวิวฉีดฟิลเลอร์