สิวผด สิวเม็ดเล็กๆ ไม่มีหัว เกิดจากอะไร? วิธีรักษาให้หายขาดแบบเร่งด่วน
เชื่อว่าใครหลายคนจะต้องเคยพบเจอกับปัญหาสุดหนักใจที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้นั่นก็คือ “สิวผด” ตัวร้ายตัวเล็ก ๆ บนใบหน้า ที่สร้างความรำคาญและความไม่สบายใจให้กับคุณ สิวผดนี้ ถึงแม้จะไม่ค่อยอักเสบหรือมีเป็นรอยแผลเป็นตามมา แต่การอยู่รวมกันเป็นกลุ่มก้อนก็ทำให้ผิวหน้าดูไม่เรียบเนียน ไร้ความมั่นใจ แต่งหน้าไม่สวย บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึก สิวผด สิวเม็ดเล็ก ไม่มีหัว เกิดจากอะไร? พร้อมเผยวิธีรักษาสิวผดแบบเร่งด่วน ที่รับรองว่าหายเกลี้ยง พร้อมเผยผิวใหม่ที่เรียบเนียนกว่าเดิม ว่าแล้วก็ไปดูกันเลย!
สิวผดคืออะไร?
สิวผด (Acne Miliary) เป็นหนึ่งในสิวชนิดไม่อักเสบ ลักษณะเป็นตุ่มนูนเล็ก ๆ สีขาวหรือสีเนื้อ สิวไม่มีหัว มีขนาดประมาณ 1-2 มิลลิเมตร มักขึ้นเป็นกลุ่มบริเวณใบหน้า หน้าผาก คาง แม้กระทั่งลำตัว ซึ่งสิวผดมักจะไม่ก่อให้เกิดอาการเจ็บหรือปวดเหมือนสิวอักเสบ แต่จะทำให้ผิวหน้าดูไม่เรียบเนียน ไม่น่ามอง
สาเหตุของการเกิดสิวผด
สิวผด เกิดจากการระคายเคืองของผิวหรือการอุดตันในรูขุมขน โดยสาเหตุสิวผดหลัก ๆ ได้แก่
ความร้อนและความชื้นสูง
สิวผดมักเกิดจากสภาพอากาศที่ร้อนชื้น ซึ่งทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองและผลิตเหงื่อมากขึ้น เมื่อเหงื่อไม่สามารถระบายออกได้ดี ก็จะเกิดการอุดตันในรูขุมขน นำไปสู่การเกิดสิวเม็ดเล็ก โดยเฉพาะบริเวณหน้าผากและแก้ม
การสัมผัสกับมลภาวะ
มลภาวะในอากาศ เช่น ฝุ่น ควัน หรือสารเคมีต่าง ๆ สามารถเกาะติดบนผิวหนัง และก่อให้เกิดการระคายเคืองหรืออุดตันรูขุมขน ทำให้เกิดสิวผดได้บ่อยครั้ง โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ดังนั้น การใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่มีมลภาวะสูงจึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญ
การอุดตันของรูขุมขน
การสะสมของเหงื่อ น้ำมัน และสิ่งสกปรกบนผิวเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตัน เมื่อรูขุมขนอุดตัน จะเกิดการระคายเคืองและเป็นสิวเม็ดเล็ก โดยลักษณะการอุดตันนี้มักไม่ก่อให้เกิดหัวสิวที่ชัดเจนเหมือนสิวอักเสบ และจะเป็นสิวไม่มีหัว และมีจำนวนที่เยอะกว่า
การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ไม่เหมาะสม
การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีส่วนผสมสารเคมี น้ำหอม หรือแอลกอฮอล์ อาจทำให้ผิวระคายเคืองและเกิดสิวผดได้ รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อุดตันรูขุมขนและไม่ทำความสะอาดให้ดีก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ
พันธุกรรม
หากสมาชิกในครอบครัวมีปัญหาสิวผด ก็มีโอกาสสูงที่ตัวเองจะเป็นสิวผดได้เช่นกัน โดยพันธุกรรมอาจทำให้ผิวไวต่อการอุดตันหรือการระคายเคืองได้มากกว่า
ความเครียด
ความเครียดมีผลกระทบต่อการทำงานของต่อมไขมัน ซึ่งอาจกระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันมากเกินไป ทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตันและกลายเป็นสิวผด นอกจากนี้ ความเครียดยังทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง ทำให้ผิวฟื้นตัวได้ช้ากว่าเดิมเมื่อเกิดสิว
ความแตกต่างระหว่างสิวผดกับสิวอุดตัน
1.สาเหตุ
สิวผด : เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนชั้นบนสุด โดยเซลล์ผิวหนังชั้นนอกที่ตายแล้ว ร่วมกับสิ่งสกปรกและน้ำมันส่วนเกิน เมื่อผสมกับอากาศ ก็จะกลายเป็นสิวเม็ดเล็ก สีขาว
สิวอุดตัน : เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนชั้นล่างร่วมกับน้ำมันส่วนเกิน แบคทีเรีย และเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว ส่งผลให้เกิดเป็นสิวหัวดำหรือหัวขาว
2.ลักษณะ
สิวผด : มีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีขาว เป็นสิวไม่มีหัว มักขึ้นเป็นกลุ่มบริเวณหน้าผาก แก้ม และคอ
สิวอุดตัน : มีลักษณะเป็นตุ่มนูน แข็ง คล้ายเม็ดไขมันใต้ผิวหนัง อาจมีสีขาว หัวดำ หรือมีตุ่มหนอง
3.อาการ
สิวผด : มักไม่ค่อยเจ็บ แต่จะมีอาการคัน และอาจทำให้ผิวหน้าดูไม่เรียบเนียน
สิวผด : เมื่อสัมผัสหรือกดอาจเจ็บเล็กน้อย ในบางครั้งอาจอักเสบและมีหนองได้
4.การรักษา
สิวผด : เน้นการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมหรือแอลกอฮอล์ ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำ
สิวผด : ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม แพทย์อาจจ่ายยาฆ่าเชื้อ ยาทาสิว หรือกรณีสิวอุดตันหัวปิด อาจจำเป็นต้องทำการกดสิวออก
วิธีรักษาสิวผดให้หายขาดแบบเร่งด่วน
การรักษาสิวผดแบบเร่งด่วน จำเป็นต้องอาศัยการดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอและใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองผิวที่อาจทำให้สิวผดกำเริบ ได้แก่
- การดูแลผิว
- ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ไม่มีสารเคมีรุนแรง ไม่มีน้ำหอม และไม่มีแอลกอฮอล์ เพื่อลดการระคายเคืองของผิว และทำความสะอาดรูขุมขนโดยไม่ทำให้ผิวแห้งเกินไป
- ดูแลผิวโดยการใช้ครีมบำรุงผิวที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน (Oil-free) จะช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน และช่วยปรับสภาพผิวให้อยู่ในสภาวะสมดุล
- ใช้ครีมกันแดดที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (Non-comedogenic) มีความสำคัญมากในการป้องกันสิวผดและปกป้องผิวจากแสงแดดที่อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศร้อนชื้นเป็นเวลานาน หรือสวมเสื้อผ้าที่ช่วยให้ผิวสามารถระบายอากาศได้ดี เช่น เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้าย
- การใช้ผลิตภัณฑ์รักษา
- ใช้ยารักษาสิวแบบเร่งด่วน เช่น ครีมที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก (Salicylic acid) และ เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (Benzoyl peroxide) จะช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตันในรูขุมขน และยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
- ในกรณีที่สิวผดเกิดจากเชื้อรา การใช้ครีมที่มีส่วนผสมของ Clotrimazole หรือ Ketoconazole สามารถช่วยกำจัดเชื้อราและลดสิวผดได้
- การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
- รักษาความสะอาดของผิวหน้า หมั่นล้างหน้าอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง โดยเฉพาะหลังจากการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ทำให้มีเหงื่อมาก
- ไม่สัมผัสหรือแกะสิว การสัมผัสใบหน้า แกะ หรือบีบสิวผดจะทำให้ผิวระคายเคืองและอาจทำให้สิวเกิดการอักเสบหรือแย่ลง
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าหนัก ๆ เนื่องจากเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขนจะทำให้สิวผดเพิ่มขึ้น หากมีความจำเป็นต้องแต่งหน้าจริง ๆ ควรเลือกใช้เครื่องสำอางสูตรที่ระบุว่าไม่อุดตันรูขุมขน (Non-comedogenic)
- เปลี่ยนปลอกหมอนและผ้าเช็ดตัวบ่อย ๆ เพราะสิ่งเหล่านี้อาจเป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกและแบคทีเรียที่สามารถทำให้สิวผดเกิดขึ้นอีก
การป้องกันสิวผดไม่ให้กลับมาเกิดซ้ำ
การป้องกันสิวผดไม่ให้กลับมาเกิดซ้ำ จำเป็นต้องอาศัยการดูแลผิวและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างเหมาะสม เพื่อรักษาสมดุลของผิวและป้องกันการระคายเคืองที่อาจก่อให้เกิดสิวผดอีกครั้ง
หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน
ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ครีมกันแดด และเครื่องสำอางที่ปราศจากน้ำมัน (Oil-free) และไม่มีสารที่ก่อให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน เช่น ซิลิโคน เพื่อป้องกันไม่ให้รูขุมขนเกิดการอุดตันที่อาจทำให้สิวผดกลับมาเกิดซ้ำ
หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ
การสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ อาจทำให้เชื้อแบคทีเรียและสิ่งสกปรกจากมือเข้าสู่ผิว ทำให้รูขุมขนเกิดการระคายเคืองและอุดตันได้ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการจับใบหน้าหรือบีบสิวเพื่อป้องกันการระคายเคืองและการอักเสบของผิว
ดื่มน้ำมาก ๆ และรักษาสมดุลความชุ่มชื้นของผิว
การดื่มน้ำให้เพียงพอตามที่ร่างกายต้องการได้รับต่อวัน ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นและช่วยให้ระบบขับของเสียของร่างกายทำงานได้ดี อีกทั้งยังช่วยรักษาสมดุลความชุ่มชื้นของผิว ลดการระคายเคือง และป้องกันการเกิดสิวผดซ้ำได้อีกด้วย
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยน
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีที่รุนแรง เช่น น้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน หรือสารกันเสีย เพราะสารเหล่านี้อาจทำให้ผิวระคายเคืองและเกิดสิวผดได้
คำถามที่พบบ่อย
สิวผดหายได้เองไหม?
สิวผดสามารถหายได้เอง หากมีการดูแลผิวอย่างเหมาะสม เช่น การลดความร้อน ความชื้น หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
สิวผดอันตรายหรือไม่?
สิวผดไม่ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรง เนื่องจากเป็นสิวที่ไม่อักเสบ สัมผัสแล้วไม่เจ็บ แต่อาจทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียนและทำให้รู้สึกไม่สบายผิวได้ และในบางกรณี สิวผดอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือแพ้ได้หากสัมผัสหรือบีบบ่อยๆ
สิวผดต่างจากสิวอุดตันอย่างไร?
สิวผดและสิวอุดตันมีความแตกต่างกันทั้งในลักษณะและสาเหตุ โดยสิวผด มีลักษณะเป็นสิวเม็ดเล็ก ไม่มีหัว เกิดจากการระคายเคืองจากความร้อน เหงื่อ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม ไม่อักเสบและสามารถหายได้เองเมื่อปัจจัยกระตุ้นลดลง ส่วนสิวอุดตัน เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนจากน้ำมันส่วนเกินและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว มีทั้งสิวหัวขาวและสิวหัวดำ และสามารถพัฒนาเป็นสิวอักเสบได้หากติดเชื้อแบคทีเรีย
ข้อสรุป
โดยส่วนมากแล้ว สิวผดมักเกิดจากปัจจัยกระตุ้นภายนอก เช่น แสงแดด มลภาวะ รวมไปถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ถูกกับผิว ดังนั้น วิธีรักษาสิวผดจึงสามารถทำได้ง่าย ๆ อีกทั้งในบางกรณี สิวผดยังสามารถหายไปได้เอง แต่อย่างไรก็ตาม สิวผดก็ยังถือว่าเป็นปัญหาสิวที่ส่งผลต่อความมั่นใจให้ใครหลายคนเป็นอย่างมาก การดูแลผิวอย่างถูกวิธี และป้องกันการเกิดสิวอย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด