สลายไขมันหน้าท้อง เปลี่ยนพุงชั้น เป็นพุงกระชับ ลดหน้าท้องให้แบนราบ
พุงยื่นหย่อนคล้อยเพราะไขมันสะสม สาเหตุมาจากการใช้ชีวิตประจำวันที่อาจละเลยจนกลายเป็นปัญหา วันนี้หมอจึงอยากอธิบายถึงนวัตกรรมเมโสแฟตสลายไขมันหน้าท้อง วิธีการลดไขมันหน้าท้องที่ปลอดภัยโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนไม่มีเวลาออกกำลังกาย หรือผู้ที่มีพุงลดยาก
หลายคนคงสงสัยว่าเมโสแฟตพุงคืออะไร เมโสแฟตลดพุงอันตรายหรือไม่ ฉีดเมโสแฟตพุง เหมาะกับใครบ้าง ข้อควรระวังและการดูแลตัวเองหลังฉีดเมโสแฟตลดพุง และฉีดเมโสแฟตหน้าท้อง ราคาเท่าไหร่ ซึ่งหมอมีคำตอบให้ในบทความนี้
สาเหตุการเกิดไขมันสะสมหน้าท้อง
ไขมันหน้าท้อง หรือไขมันสะสมหน้าท้อง สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของบุคคลนั้นๆ ไปจนปัจจัยอื่นๆ ดังนี้
- กรรมพันธุ์จากคนในครอบครัวจะทำให้มีโอกาสที่ไขมันสะสมอยู่บริเวณหน้าท้องเป็นพิเศษ ดังนั้น จึงต้องควบคุมการกินพร้อมทั้งออกกำลังกาย
- ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะในเพศหญิงที่เข้าสู่วัยทอง ฮอร์โมนจะลดลง ระบบเผาผลาญต่ำ ทำให้เกิดไขมันหน้าท้องได้
- ความเครียดเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ เนื่องจากร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลทำให้เราอยากกินน้ำตาลหรืออาหารหวานมากขึ้น
- การพักผ่อนไม่เพียงพอจะทำให้เกิดไขมันหน้าท้องได้ง่ายๆ เนื่องจากร่างกายและฮอร์โมนไม่สมดุลและไม่คงที่
- ดื่มแอลกอฮอล์หรือเครื่องดื่มน้ำตาลสูง เนื่องจากน้ำตาลเป็นปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ไม่เต็มที่ และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ก็มีแคลอรีสูงเกินความจำเป็น
- การกินขนบขบเคี้ยวมากเกินไป ไม่ว่าจะกินขนมปัง เค้ก คุกกี้ ของกินเล่นต่างๆ เนื่องจากสิ่งเหล่านี้มีทั้งน้ำตาล แป้ง และโซเดียม ซึ่งจะทำให้เกิดไขมันสะสม และบวมน้ำได้
ฉีดสลายไขมันหน้าท้อง คืออะไร
เมโสแฟตสลายไขมันหน้าท้อง คือ นวัตกรรมการลดไขมันหน้าท้องเฉพาะจุดแบบเร่งด่วน โดยหมอจะฉีดสารสกัดจากธรรมชาติและตัวยาต่าง ๆ ที่ออกฤทธิ์สลายไขมันเข้าสู่ชั้นผิวหนังหน้าท้อง ซึ่งสารสกัดและตัวยาเหล่านี้จะเข้าไปทำให้เซลล์ผนังไขมันแตกตัว ส่งผลให้ไขมันที่จับตัวกันเป็นก้อนสลายตัวออกมา และถูกขับออกจากร่างกายในรูปแบบของเสียทางร่างกาย
ทั้งนี้ สารสกัดและตัวยาบางชนิดยังเข้าไปช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานและดึงไขมันออกมาใช้ได้มากขึ้น ทำให้ลดการสะสมไขมันบริเวณหน้าท้อง รวมถึงช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวบริเวณที่ฉีด กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ส่งผลให้หน้าท้องกระชับ ไม่เป็นห่วงหรือเป็นชั้น และไม่เกิดเซลลูไลต์ ซึ่งสารสกัดและตัวยาที่หมอนิยมใช้สำหรับฉีดเมโสแฟตหน้าท้อง สลายไขมันหน้าท้อง ได้แก่
- Phosphatidylcholine
- Deoxycholate
- L-carnitine
- Vitamin B complex
- Amino acids
- Minerals
- Cynara
- Organic silicon
อย่างไรก็ตาม เมโสแฟตสลายไขมันหน้าท้อง มีหลากหลายสูตรให้เลือกใช้ ขึ้นอยู่กับปัญหาไขมันหน้าท้องของแต่ละคน รวมถึงสภาพร่างกายที่เหมาะสมกับตัวยานั้น ๆ ด้วย ซึ่งการฉีดลดหน้าท้องในแต่ละสูตรจะต้องได้รับคำแนะนำและอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
ฉีดสลายไขมันหน้าท้องร่วมกับการลดน้ำหนักได้ไหม ?
การฉีดเมโสแฟตสลายไขมันหน้าท้องร่วมกับการลดน้ำหนักได้ไหม กลายเป็นคำถามที่หลายๆ คนสงสัย ซึ่งหมอขอตอบว่าสามารถทำได้และมีผลดีต่อร่างกาย โดยเฉพาะการออกกำลังกาย เนื่องจากจะมีส่วนในการสลายไขมันเดิม เพิ่มกล้ามเนื้อ และทำให้กล้ามเนื้อกระชับ
ดังนั้น หมอจึงอยากแนะนำให้ฉีดลดพุง ควบคู่กับการออกกำลังกายและคุมอาหารก็จะสามารถลดระยะเวลาในการสลายไขมันหน้าท้องได้เร็วขึ้น 2-3 เท่า
ฉีดสลายไขมันหน้าท้อง ทำคู่กับการสลายไขมันวิธีอื่น
นอกจากการลดน้ำหนักในรูปแบบของการออกกำลังกายและควบคุมอาหารแล้ว หมอแนะนำให้ฉีดเมโสแฟตสลายไขมันหน้าท้องควบคู่กับการสลายไขมันวิธีดังต่อไปนี้ ก็จะช่วยสลายไขมันสะสมได้เร็วยิ่งขึ้นเช่นกัน
การทำไฮ่ฟู (HIFU)
HIFU (High Intensity Focus Ultrasound) หรือไฮ่ฟู เป็นเทคโนโลยีการใช้คลื่นอัลตราซาวด์ที่มีความเข้มข้นในการทำลายเนื้อเยื่อผิวชั้นลึก ส่งผลให้ผิวชั้นนั้นหดตัว และมีการสร้างคอลาเจนชึ้นมาใหม่ ผิวหน้าเต่งตึง ช่วยยกกระชับบริเวณใบหน้า คอ เหนียง แขน ตลอดจนส่วนอื่นๆ โดยเฉพาะการทำบริเวณหน้าท้อง เอว และสะโพก
การทำ HIFEM
HIFEM (High Intensity Focused Electromagnetic) คือ การใช้เทคโนโลยีการยิงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไปในชั้นกล้ามเนื้อบริเวณต่างๆ เพื่อลดระดับไขมันหน้าท้อง กระตุ้นให้กล้ามเนื้อหดตัว ซึ่งจะส่งผลให้กล้ามเนื้อทำงานจนเกิดความกระชับมากยิ่งขึ้น วิธีนี้จะช่วยเผาผลาญไขมันสะสมและทำให้หน้าท้องกระชับกว่าการออกกำลังกาย วิดพื้น หรือสควอทอีกด้วย
การเตรียมตัวก่อนฉีดเมโสแฟต และหลังฉีดเมโสแฟต
อย่างไรก็ดี แม้ว่าการเมโสแฟตสลายไขมันหน้าท้องจะปลอดภัยและมีผลข้างเคียงน้อย แต่หมอแนะนำว่าต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติก่อนและหลังฉีด เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและลดคามเสี่ยงของอาการต่างๆ
ข้อปฎิบัติก่อนฉีดเมโสแฟต
สำหรับการปฏิบัติตัวก่อนฉีดเมโสแฟตสลายไขมันหน้าท้อง เพื่อลดความเสี่ยงและได้ผลลัพธ์หลังการฉีดที่มีประสิทธิภาพ มีดังต่อไปนี้
- งดกลุ่มยาแก้ปวด แอสไพริน NSAIDs และ Dipyridamole ก่อนเข้ารับการฉีดเมโสแฟตลดพุง 48 ชั่วโมง
- งดรับประทานอาหารเสริม เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา ใบแปะก๊วย เป็นต้น ก่อนเข้ารับการฉีดเมโสแฟตลดพุง 1 สัปดาห์
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้ารับการฉีดเมโสแฟตลดพุง 24 ชั่วโมง
- ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับอาการแพ้ต่าง ๆ ก่อนเข้ารับการฉีด เพื่อให้แพทย์พิจารณาการใช้สารสกัดและตัวยาอย่างเหมาะสม
ข้อปฎิบัติหลังการฉีดเมโสแฟต
นอกจากนี้ เมื่อฉีดเมโสแฟตสลายไขมันหน้าท้องแล้ว หมอแนะนำว่าให้ดูแลตนเองอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปด้วย ดังนี้
- ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร ต่อเนื่อง 14 วัน เพื่อกระตุ้นการขับถ่าย
- งดนวดหรือกดบริเวณที่ฉีด
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งหมอแนะนำว่าควรนอนให้ถึงวันละ 7-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายมีเวลาฟื้นฟูและซ่อมแซมตัวเองได้เต็มที่
- งดของหมักดอง และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน งดอาหารประเภทแป้ง ไขมัน น้ำตาล และอาหารที่มีโซเดียมสูง
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะจะกระชับกล้ามเนื้อและลดไขมันเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น
ใครที่เหมาะกับการฉีดสลายไขมันหน้าท้อง
วิธีลดหน้าท้องด้วยการฉีดเมโสแฟตลดไขมันหน้าท้อง หมอจะฉีดให้แก่ผู้ที่ต้องการลดไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง กำจัดจัดเซลลูไลต์ และต้องการเปลี่ยนพุงชั้นให้กลายเป็นพุงกระชับ ซึ่งทั้งชายและหญิงอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไปสามารถเข้ารับการฉีดเมโสแฟตลดไขมันหน้าท้องได้ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินไขมันหน้าท้อง
ใครที่ไม่เหมาะกับการฉีดสลายไขมันหน้าท้อง
อย่างไรก็ตาม วิธีฉีดเมโสแฟตสลายไขมันหน้าท้อ อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีไขมันหน้าท้องจำนวนมาก เพราะต้องใช้เวลารักษาหลายครั้งจึงจะเห็นผล ซึ่งสิ่งที่ตามมา คือ ค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นโดยใช่เหตุ ดังนั้นหมอจึงแนะนำว่า ถ้าอยากลดไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้องจำนวนมาก ควรลดด้วยหัตถการวิธีอื่น เช่น การทำเลเซอร์สลายไขมันหน้าท้อง การทำ HIFM ลดพุง หรือการทำ HIFU ลดไขมันหน้าท้อง เป็นต้น เพราะวิธีดังกล่าวจะช่วยลดไขมันหน้าท้องที่มีจำนวนมากได้รวดเร็วและเห็นผลดีกว่า
นอกจากนี้ผู้ที่มีโรคประจำตัว สตรีมีครรภ์ เป็นเบาหวาน มีภาวะลิ่มเลือด ระบบหลอดเลือดผิดปกติ มะเร็ง หรือหัวใจไม่ควรฉีดสลายไขมันหน้าท้อง
ฉีดสลายไขมันหน้าท้องเห็นผลเมื่อไหร่ ควรทำกี่ครั้ง
คำถามยอดนิยมที่หมอพบบ่อยๆ คือ ควรฉีดสลายไขมันหน้าท้องกี่เข็มถึงเห็นผล คำตอบคือ ควรฉีดเมโสแฟตลดไขมันหน้าท้อง 4-5 ครั้ง โดยทั่วไปหมอจะฉีดห่างกันครั้งละ 2-3 สัปดาห์ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ทั้งนี้จำนวนครั้งยังขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันหน้าท้องของแต่ละคน ซึ่งหมอจะเป็นคนพิจารณาตามความเหมาะสม
ฉีดสลายไขมันหน้าท้องมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง
การฉีดเมโสแฟตสลายไขมันหน้าท้องหลายๆ คนอาจจะกลัวอันตราย แต่หมอขอตอบเลยว่าไม่มีอันตราย แต่ในบางรายจะมีผลข้างเคียงเล็กน้อย ซึ่งหมอยืนยันว่าไม่มีผลข้างเคียงใดที่ร้ายแรง โดยส่วนใหญ่มีอาการดังนี้
- บวมช้ำจากรอยเข็ม หรืออาการบวมยา ซึ่งจะหายไปเองภายใน 30-60 นาที
- มีอาการแพ้
- ผิวหนังบริเวณที่ฉีดสารมีสีเปลี่ยนแปลงไป
- เกิดแผลเป็นบริเวณที่ฉีดสารเข้าไป
- อาการติดเชื้อ กรณีขั้นตอนการฉีดไม่สะอาดและปลอดภัยมากพอ
ข้อดี – ข้อเสียการฉีดฉีดสลายไขมันหน้าท้องมีอะไรบ้าง
โดยข้อดีของเมโสแฟตหน้าท้อง สลายไขมันหน้าท้อง มีดังนี้
- ใช้เวลารักษาไม่นานและไม่ต้องพักฟื้น
- เหมาะสำหรับผู้ที่อยากลดไขมันหน้าท้อง หรือกำจัดพุงยื่น แต่ไม่อยากผ่าตัด
- แก้ปัญหาไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องได้ตรงจุด และเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว
- มีความปลอดภัยและมีผลข้างเคียงน้อย เมื่อเทียบกับวิธีดูดไขมัน
- ไม่มีสารตกค้างในร่างกาย เพราะเมื่อไขมันหน้าท้องสลายตัว สารสกัดและตัวยาที่ฉีดเข้าไปจะถูกขับออกมาในรูปแบบของเสียพร้อมกับไขมันด้วย
ส่วนข้อเสียของการฉีดลดพุง คือ อาจจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยขณะฉีดยา และอาจจะเกิดรอยแผลเป็น หรือรอยฟกช้ำ และไม่สามารถเห็นผลได้ทันที นอกจากนี้ยังต้องระมัดระวังยาฉีดสลายไขมันที่ไม่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาในประเทศไทย และยังไม่มีผลวิจัยใด ๆ รองรับ ทางที่ควรปรึกษาหมอที่ไว้ใจได้และเลือกคลิกนิกที่มีมาตรฐาน
ข้อสรุป
เมโสแฟตสลายไขมันหน้าท้อง คือ วิธีสลายไขมันหน้าท้องแบบเร่งด่วนและปลอดภัย เหมาะสำหรับผู้ที่มีพุงลดยากและไม่อยากผ่าตัด หากตัดสินใจจะฉีดลดพุง หมอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับตัวคุณ เพราะทุกเคสหมอจะพิจารณาอย่างละเอียดจากส่วนสูง น้ำหนัก สัดส่วน ค่า BMI และปริมาณไขมัน ซึ่งเป็นข้อมูลเฉพาะของบุคคลที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถสอบถามหมอได้ที่ไลน์ @ayaclinic หรือโทรศัพท์ 090-970-0447 ไม่มีค่าใช้จ่าย
เอกสารอ้างอิง
S Jayasinghe, T Guillot, L Bissoon, F Greenway. (2013). Mesotherapy for local fat reduction.
Retrieve from https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/23800269/