เชื้อราบนหนังศีรษะ เกิดจากอะไร ปัญหาที่ทำให้ขาดความมั่นใจ
ใครกำลังมีปัญหาเหล่านี้อยู่หรือไม่? หนังศีรษะลอกเป็นขุย ผมร่วง คันหนังศีรษะ ซึ่งมีอาการคันมากกว่าปกติ นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหา “เชื้อราบนหนังศีรษะ” ได้ โดยเชื้อราบนหนังศีรษะถือเป็นอีกหนึ่งปัญหากวนใจของใครหลายคน เพราะนอกจากจะทำคันจนรู้สึกรำคาญใจแล้ว ยังอาจจะเกิดอาการแผลตกสะเก็ด ผมร่วง ผิวหนังอักเสบ ทำให้เวลาสระผมจะรู้สึกแสบหนังศีรษะ เมื่อปล่อยทิ้งไว้นานๆ ก็จะทำให้ผมร่วงมากกว่าเดิม ส่งผลต่อความมั่นใจของหลายคนเป็นอย่างมาก ในบทความนี้ จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกันว่าเชื้อราบนหนังศีรษะ คืออะไร มีสาเหตุเกิดมาจากอะไร มีอาการแบบไหน มีวิธีการรักษาและป้องกันอย่างไร
เชื้อราบนหนังศีรษะ คืออะไร
เชื้อราบนหนังศีรษะ (Tinea Capitis) เป็นเชื้อราที่มักจะพบเห็นได้ทั้งบริเวณหนังศีรษะชั้นบน รากผม โคนผม เส้นผม รวมไปถึงขนตา เล็บ คิ้ว และผิวหนังส่วนอื่นๆ ได้อีกด้วย เชื้อราประเภทนี้สามารถก่อโรคให้กับหนังศีระษะได้ โดยจะทำให้หนังศีรษะเป็นแผลตกสะเก็ด ลอกเป็นขุย มีอาการแห้งมาก เมื่อหนังศีรษะมีอาการติดเชื้ออย่างเต็มที่แล้วก็จะตามมาด้วยอาการคันหนังศีรษะ ผมร่วง และอาจจะมีอาการหนังศีรษะอักเสบตามมาได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีลักษณะคล้ายกับรังแค จึงอาจจะทำให้หลายคนเข้าใจผิด
โดยทั่วไปแล้วอาการแสดงของเชื้อราบนหนังศีรษะ มักจะเกิดขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ ในบางรายหากมีภูมิคุ้มกันร่างกายที่ดี ก็จะเป็นแค่พาหะแพร่เชื้อและจะหายได้เอง แต่สำหรับใครที่ร่างกายไม่แข็งแรงก็มักจะแสดงอาการอย่างที่กล่าวไปข้างต้น
สาเหตุที่ทำให้เกิดเชื้อราบนศีรษะ
เชื้อราบนหนังศีรษะ ส่วนมากจะเป็นเชื้อราที่อยู่ในกลุ่ม Dermatophytes ซึ่งสามารถพบได้ทั้งในมนุษย์ สัตว์เลี้ยง และในดิน โดยเชื้อราที่สามารถทำให้เกิดเชื้อราบนหนังศีรษะได้ จะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 2 สายพันธุ์ ได้แก่
- Microsporum เป็นเชื้อราที่มักจะพบได้ในสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัขหรือแมว เป็นต้น ซึ่งเชื้อราประเภทนี้จะเข้าไปทำลายเคราตินในเต้นผม ทำให้เส้นผมอ่อนแอ ขาดร่วงง่าย หนังศีรษะแห้ง ลอกเป็นขุย และรู้สึกคันมากกว่าปกติ
- Trichophyton เชื้อราประเภทนี้จะทำให้เส้นผมหลุดร่วงออกเป็นหย่อม หนังศีษะลอกเป็นแผ่น จนทำให้มองเห็นหนังศีรษะในบริเวณที่ผมร่วงได้ง่าย และอาจรุนแรงถึงขั้นเกิดการอักเสบร่วมด้วย
เชื้อราบนศีรษะสามารถติดต่อกันได้ไหม
เชื้อราบนหนังศีรษะจัดได้ว่าเป็นโรคติดต่อชนิดหนึ่ง เนื่องจากสาเหตุการเกิดนั้นมาจากคน สัตว์เลี้ยง หรือสิ่งอื่นๆ ทำให้สามารถแพร่กระจายไปได้ โดยเชื้อราบนหนังศีรษะ มีสาเหตุการติดต่อมาจากสิ่งรอบข้าง ดังนี้
- ติดจากคนสู่คน
สาเหตุที่เกิดเชื้อราบนหนังศีรษะได้มากที่สุดคือการติดเชื้อมาจากคนสู่คน โดยการติดต่อประเภทนี้มักจะพบได้มากในเด็กที่มีที่มีภูมิคุ้มกันค่อนข้างต่ำ ร่างกายอ่อนแอ จึงอาจจะติดจากเพื่อนที่โรงเรียนมาได้ ซึ่งในระยะแรกอาจจะไม่แสดงอาการมากนัก แต่เมื่อผ่านไป 14 วันจึงจะค่อยแสดงอาการคันหนังศีรษะอย่างรุนแรง
- ติดจากสัตว์สู่คน
ในบางรายที่มีการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงไว้ในบ้านแบบอาศัยร่วมกัน เช่น สุนัข หรือแมว ที่นอนห้องนอนเดียวกัน นอนเตียงเดียว หรืออยู่ใกล้ชิดกันมาก รวมไปถึงการเล่นกับสัตว์เลี้ยงโดยไม่ได้ล้างมือ ก็อาจจะมีการติดเชื้อราบนหนังศีรษะ มาจากสัตว์เลี้ยงของเราได้
- ติดจากสิ่งของ
การติดเชื้อราบนหนังศีรษะมาจากสิ่งของจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลยหากเราไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น เช่น หวี หมวก หรือผ้าเช็ดตัว หรือแม้แต่การใช้บริการร้านตัดผมก็เสี่ยงที่จะได้รบเชื้อรานี้มาด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ก็อย่าเพิ่งวิตกกังวลกันไปเพราะเชื้อราบนหนังศีรษะไม่ใช่ทุกคนที่จะติดเชื้อได้ เนื่องจากผู้ที่ได้รับเชื้อราส่วนใหญ่มักจะเป็นคนที่มีภูมิคุ้มกัน ร่างกายไม่แข็งแรง หรือคนที่มีบาดแผลจึงทำให้เชื้อราสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายกว่าปกติ
ความเสี่ยงที่ทำให้เกิดเชื้อราบนหนังศีรษะ
ผู้ที่อยู่อาศัยร่วมกับสัตว์เลี้ยง นอนเตียงเดียวกัน หรือคลุกคลีอยู่กับสัตว์เลี้ยงบ่อย
- ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ป่วยง่าย ร่างกายอ่อนแอ
- ผู้ที่ดูแลหนังศีรษะแบบผิดๆ เช่น เกาศีรษะแรงๆ เป็นประจำ แพ้ยาสระผม หรือมัดผมแน่นจนเกินไป
- ผู้ที่มีบาดแผลบริเวณหนังศีรษะ ทำให้เชื้อราสามารถเข้าสู่ทางบาดแผลได้ง่าย
- ผู้ที่เข้าร้านตัดผมบ่อยๆ โดยเฉพาะร้านที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่มีการทำความสะอาดให้เรียบร้อย
- ผู้ที่สระผมน้อยกว่าสัปดาห์ละ 3 ครั้ง เนื่องจากหนังศีรษะอาจเกิดการหมักหมมสิ่งสกปรกมากเกินไป
- เด็กที่อยู่ในวัยประถม หรือวัยอนุบาล
อาการของเชื้อราบนหนังศีรษะ
ผู้ที่เริ่มติดเชื้อราบนหนังศีรษะมา มักจะแสดงอาการอย่างชัดเจนภายใน 2 สัปดาห์แรก ซึ่งสามารถแบ่งอาการแสดงได้เป็น 2 ประเภทคืออาการทั่วไปและอาการรุนแรง ดังนี้
อาการทั่วไป
- มีอาการคันหนังศีรษะอย่างรุนแรง
- ผมร่วง ผมร่วงเป็นหย่อม ซึ่งจะร่วงลงเรื่อยๆ จนเห็นตอผมเป็นจุดสีดำ
- หนังศีรษะลอกเป็นขุยคล้ายกับรังแค และหนังศีรษะแห้งมาก
- มีผื่นขึ้นเป็นวงกลมบนหนังศีรษะ
- ผมอ่อนแอและขาดง่าย เนื่องจากเคราตินในเส้นผมถูกทำลาย
อาการรุนแรง
- มีอาการแสบบริเวณที่เป็นแผลอย่างรุนแรงและอาจมีไข้ร่วมด้วย
- อาจมีตุ่มหนองเล็กๆ เกิดขึ้นหรือเป็นฝีได้
- อาจเกิดเชื้อราสีแดงในบริเวณที่ติดเชื้อ
- มีหนองขึ้นนูน เรียกว่า ชันตุ (Kerion)
- หากเป็นการติดเชื้อราบนหนังศีรษะในเด็กอาจจะมีอาการต่อมน้ำเหลืองที่คอ หรือหลังหูโตได้
วิธีการรักษาเชื้อราบนหนังศีรษะ
สำหรับวิธีการรักษาเชื้อราบนหนังศีรษะ สามารถแบ่งการรักษาได้เป็น 2 แบบ คือการรักษาสำหรับผู้ที่มีอาการทั่วไปและการรักษาสำหรับผู้ที่มีอาการรุนแรงและมีการอักเสบร่วมด้วย ดังนี้
การรักษาแบบปกติ
- ใช้ยาสระผมสำหรับฆ่าเชื้อราโดยเฉพาะ โดยใช้สระผมวันเว้นวันหรืออย่างน้อย 3 ครั้ง/สัปดาห์ หรืออาจะใช้ยาทาฆ่าเชื้อราร่วมด้วยก็ได้เช่นกัน
- ใช้ยารักษาเชื้อราบนหนังศีรษะแบบรับประทาน โดยรับประทานต่อเนื่องประมาณ 6-12 สัปดาห์ ร่วมกับวิธีการรักษาแบบอื่นๆ เช่น การใช้ยาทา หรือยาสระผม
การรักษาแบบที่มีอาการรุนแรง
- รับประทานยาแก้อักเสบและยากดภูมิ เพื่อลดการทำงานของภูมิคุ้มกันในร่างกายที่ทำงานมากกว่าปกติ
- หากมีอาการอักเสบอย่างรุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาทันที เพราะถ้าหากปล่อยทิ้งไว้ก็จะทำให้เกิดแผลขนาดใหญ่บนหนังศีรษะและทำให้ผมไม่สามารถงอกออกมาใหม่ได้
หากมีการรักษาเชื้อราบนหนังศีรษะจนหายดีแล้ว แต่ผมไม่สามารถงอกออกมาใหม่ได้ แพทย์จะทำการรักษาด้วยการฉีดสเต็มเซลล์ผม, ทำ PRP ผม, เลเซอร์ LLLT หรือ Fotona Laser เพื่อเป็นการกระตุ้นรากผมให้กลับมางอกใหม่ได้อีกครั้ง หรือที่เราเรียกกันว่าการปลูกผมนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม หากสงสัยว่าตนเองมีเชื้อราบนหนังศีรษะเพราะมีอาการตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น แนะนำให้รีบไปพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาและเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง เพราะถ้าหากซื้อยามารับประทานเองโดยที่ไม่ได้ปรึกษาแพทย์ก่อนก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายได้
การป้องกันเชื้อราบนหนังศีรษะ
ถึงแม้ว่าเชื้อราบนหนังศีรษะจะไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงอะไร แต่ก็ส่งผลเสียต่อร่างกาย และยังส่งผลต่อความมั่นใจของเราอีกด้วย ดังนั้น การป้องกันไว้ก่อนก็ย่อมส่งผลดีกว่า โดยวิธีการป้องกันเชื้อราบนหนังศีรษะ มีดังนี้
- หมั่นรักษาความสะอาดร่างกายของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการอาบน้ำ สระผม ตัดเล็บ และที่สำคัญควรเช็ดผมให้แห้งสนิทก่อนเข้านอน
- รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้ร่างกายได้สร้างภูมิคุ้มกันที่ดี
- รักษาความสะอาดในที่ที่อยู่อาศัย รวมไปถึงของใช้ต่างๆ ในชีวิตประจำวันด้วย
- ล้างมือทุกครั้งหลังจากสัมผัสกับสัตว์เลี้ยง หากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการนอนร่วมกัน และพาสัตว์เลี้ยงไปตรวจสุขภาพประจำปี
- แยกของใช้ส่วนตัวออกจากผู้อื่น และไม่ควรใช้ของร่วมกับคนอื่น เช่น ผ้าเช็ดตัว หวี หมวก
- หลีกเลี่ยงการเกาหนังศีรษะแรงๆ เพราะอาจจะทำให้เกิดบาดแผลได้
ข้อสรุป
เชื้อราบนหนังศีรษะเป็นอีกหนึ่งโรคติดต่อที่ถึงแม้จะไม่ได้ส่งผลอันตรายถึงชีวิต แต่ก็สร้างความรำคาญใจให้กับเราได้มาก อีกทั้งยังทำให้ผมร่วง ร่วงเป็นหย่อม ในบางรายที่มีการอักเสบบริเวณหนังศีรษะอย่างรุนแรง ผมก็ไม่สามารถงอกกลับขึ้นมาใหม่ได้อีกแล้ว เพราะฉะนั้น จึงควรป้องกันให้ดีและถ้าหากใครกำลังประสบกับปัญหานี้อยู่ แนะนำให้เข้ารับการรักษาจากแพทย์โดยตรง เพื่อผลลัพธ์การรักษาที่ดียิ่งกว่า