หน้าหมองคล้ำ หน้าโทรมเกิดจากกอะไร ปัญหาผิว หรือขนบนใบหน้า
ปัญหาหน้าหมองคล้ำ หน้าโทรม ล้วนมีสาเหตุเกิดจากหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การโดนแสงแดดมากจนเกินไป พักผ่อนไม่เต็มที่ ดื่มน้ำน้อย และอีกหลาย ๆ อย่างรวมไปถึงอีกหนึ่งปัจจัยที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง ซึ่งนั่นก็คือ “ขนบนใบหน้า” ที่หากมีเยอะจนเกินไป ก็จะส่งผลให้ใบหน้าของเราดูหมองคล้ำได้แบบที่เราเองก็ไม่ได้คาดคิดมาก่อน แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าปัญหาหน้าหมองคล้ำที่เรากำลังเผชิญอยู่นั้นเกิดจากอะไร ปัญหาผิวหรือขนบนใบหน้า? ในบทความนี้เราจะพาไปไขข้อสงสัย พร้อมแนะนำวิธีการแก้ไขและป้องกันอย่างตรงจุด
หน้าหมองคล้ำ เป็นอย่างไร
หน้าหมองคล้ำ คือปัญหาผิวที่ขาดความกระจ่างใส ผิวดูหมอง หน้าโทรม ผิวคล้ำ รวมทั้งขาดความชุ่มชื้น ส่งผลให้สีผิวของเราไม่สม่ำเสมอกัน ไม่เรียบเนียน และมีความแห้งกร้าน นับว่าเป็นปัญหาสุดหนักใจของใครหลายคนเป็นอย่างมาก
โดยปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำนั้นเป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจเป็นบ่อเกิดของปัญหาผิวอื่น ๆ ที่อาจจะตามมาได้อีก ไม่ว่าจะเป็นสิว รูขุมขนกว้าง หน้ามัน รวมถึงริ้วรอยบนใบหน้า ดังนั้น ก่อนอื่นเราไปทำความเข้าใจกันก่อนเลยว่าปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ มีสาเหตุเกิดมาจากปัจจัยใดได้บ้าง
ปัจจัยภายใน
●อายุที่เพิ่มมากขึ้น
ตามธรรมชาติ เมื่ออายุมากขึ้น ผิวจะสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน ส่งผลให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นลดลง ผิวแห้ง เกิดริ้วรอย และดูหมองคล้ำ แก้ไขได้ด้วยการทาครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของวิตามินซี กรดไฮยาลูโรนิก และแอนตี้ออกซิแดนท์ ควบคู่กับการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ
●พักผ่อนไม่เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ไม่ดี ผิวได้รับสารอาหารและออกซิเจนน้อยลง เกิดการขาดน้ำ ทำให้ผิวหน้าดูโทรม หน้าหมองคล้ำ แก้ไขได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เข้านอนเร็ว ตื่นเช้า และนอนให้ครบ 7-8 ชั่วโมง
ปัจจัยภายนอก
● สภาพอากาศ
แสงแดด ฝุ่นละออง ควัน มลพิษ ล้วนเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ เกิดริ้วรอย จุดด่างดำ วิธีรับมือคือ ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป สวมหมวก ใส่เสื้อแขนยาว และทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึกเป็นประจำ
● มลภาวะ
ฝุ่นควัน มลพิษในอากาศ ส่งผลให้ผิวเกิดการระคายเคือง อักเสบ เกิดริ้วรอยก่อนวัย ควรใส่หน้ากากอนามัยเมื่อต้องเผชิญกับมลพิษ และทำความสะอาดผิวหน้าอย่างสะอาดหมดจด
● การสูบบุหรี่
สารเคมีในบุหรี่ทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น เกิดริ้วรอย และหมองคล้ำได้
● ดื่มน้ำไม่เพียงพอ
การดื่มน้ำน้อยส่งผลให้ผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น ผิวดูหมองคล้ำ ไม่สดใส ดังนั้น ควรดื่มน้ำให้เพียงพอที่ร่างกายต้องการ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
● ไม่ผลัดเซลล์ผิว
การผลัดเซลล์ผิวอย่างสม่ำเสมอ ช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วเผยผิวใหม่ที่สดใส โดยใช้สครับผิวหน้าหรือมาส์กผลัดเซลล์ผิว 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์
● ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวไม่ถูกกับผิว
การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิวอาจทำให้เกิดการระคายเคือง แพ้ เกิดผื่น หน้าหมองได้ จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน เหมาะกับสภาพผิว และผ่านการทดสอบการแพ้อย่างถูกต้อง
● ขนบนใบหน้า
ขนอ่อนบนใบหน้า เมื่อเกิดการสะท้อนแสง จะทำให้ผิวดูหมองคล้ำ หน้าหมอง รวมไปถึงหนวดเครา ก็จะยิ่งทำให้ผิวบริเวณนั้นดูคล้ำและไม่เรียบเนียน
วิธีดูแลผิวหน้าหมองคล้ำให้กับมาผิวใส
จะเห็นได้เลยว่าปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ เป็นปัญหากวนใจของใครหลายคน เพราะทำให้ดูโทรม ไม่สดใส แต่ปัญหาเหล่านี้ล้วนแก้ได้ ด้วยวิธีง่าย ๆ 6 วิธี ดังนี้
ทำความสะอาดผิวหน้า
ทำความสะอาดผิวหน้าอยู่เป็นประจำ ด้วยการล้างหน้าอย่างน้อย 2 ครั้งต่อวัน เช้า-เย็น ด้วยคลีนเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิว ไม่ควรล้างหน้าเกินกว่านี้ เพราะหากล้างหน้าบ่อยเกินไปก็จะทำให้ผิวแห้งได้ นอกจากนี้ ควรใช้โทนเนอร์ เพื่อปรับสมดุลผิว ทำให้ผิวมีความสม่ำเสมอกันมากยิ่งขึ้น
ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงที่มีส่วนผสมของวิตามินซี, ไนอาซินาไมด์, อาร์บูติน ที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ รวมถึงใช้มอยส์เจอไรเซอร์เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้นควบคู่กันไปด้วย นอกจากนี้ ครีมกันแดดก็สำคัญมาก ควรทาเป็นประจำทุกวัน โดยเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป
การดื่มน้ำให้เพียงพอ
ดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ลดความแห้งกร้าน ปรับสมดุลในร่างกาย ซึ่งนอกจากจะช่วยในเรื่องผิวพรรณแล้ว ยังดีต่อสุขภาพของเราอีกด้วย
การทานวิตามิน
การทานวิตามิน จะช่วยบำรุงผิวจากภายในสู่ภายนอก แก้ปัญหาหน้าหมองคล้ำ จุดด่างดำ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และยังทำให้ผิวแข็งแรง ไม่ไวต่อแสงแดดอีกด้วย ส่งผลให้ผิวมีความชุ่มชื้น ไม่แห้ง โดยวิตามินที่นิยมรับประทาน เช่น วิตามินซี วิตามินอี และวิตามินบี 3
การผลัดเซลล์ผิว
การผลัดเซลล์ผิว เป็นการขจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันบนใบหน้าไม่ว่าจะเป็น ฝุ่น ควัน มลภาวะ รวมถึงความมันบนใบหน้า โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภภัยและเหมาะกับสภาพผิว หลังจากผลัดเซลล์ผิวแล้ว จะเป็นกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป เผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสมากยิ่งขึ้น
การทำหัตถการด้านความงาม
การทำหัตถการ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะเป็นวิธีการแก้ปัญหาหน้าหมองคล้ำที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยหัตถการที่ได้รับความนิยม ได้แก่
● การทำเลเซอร์
เลเซอร์ เป็นนวัตกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงในการแก้ปัญหาผิวพรรณต่าง ๆ รวมถึงปัญหาหน้าหมองคล้ำ โดยเลเซอร์จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ผลัดเซลล์ผิว เผยผิวใหม่ที่ขาวกระจ่างใส
● การ Detox ผิว
การ Detox ผิว เป็นการทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึกเพื่อขจัดสิ่งสกปรก เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และสารพิษตกค้าง ที่เป็นสาเหตุของปัญหาหน้าหมอง โดยวิธีการ Detox ผิวนั้นมีหลากหลาย เช่น
– การใช้มาส์ก Detox มีส่วนผสมของโคลน ชาโคล หรือสารสกัดจากธรรมชาติ ช่วยดูดซับสิ่งสกปรกและกระตุ้นการไหลเวียนเลือด
– การทำทรีทเมนต์ Detox โดยผู้เชี่ยวชาญ ใช้เครื่องมือและผลิตภัณฑ์เฉพาะทาง ช่วยทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก
● การฉีดรีจูรัน
การฉีดรีจูรัน เป็นการฉีดสารสกัดที่ปลอดภัยต่อร่างกายเข้าสู่ผิว เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีลาสติน และเซลล์ผิวใหม่ ผลลัพธ์ที่ได้คือ ผิวขาวกระจ่างใส เต่งตึง ริ้วรอยลดเลือน และจุดด่างดำจางลง
การป้องกันดูแลผิวไม่ให้หมองคล้ำ
● ป้องกันแสงแดด
ปกป้องผิวจากแสงแดด้วยการทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป ทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง ควบคู่ไปกับการสวมหมวก แว่นกันแดด และกางร่มเพื่อประสิทธิภาพในการปกป้องที่ดียิ่งขึ้น
● ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกวิธี
เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน เหมาะกับสภาพผิว และล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
● ผลัดเซลล์ผิวอย่างสม่ำเสมอ
ผลัดเซลล์ผิวอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง รวมถึงเลือกผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวที่เหมาะกับสภาพผิว เช่น AHA, BHA
● บำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ
ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินซี วิตามินอี ไนอาซินาไมด์ ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ
● ดื่มน้ำให้เพียงพอ
ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ขับสารพิษ
● นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
นอนหลับอย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง ช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวพรรณสดใสมากขึ้น
หน้าหมองคล้ำเลือกใช้ผลิตภัณฑ์แบบไหนดี
หากมีปัญหาหน้าหมองคล้ำ รวมทั้งมีจุดด่างดำ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีสารสกัดและส่วนผสมของวิตามินซี ไนอาซินาไมด์ วิตามินบี 3 เพื่อช่วยปรับผิวให้กระจ่างใสมากยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวที่มีส่วนผสมของ AHA, BHA อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง และที่สำคัญ ควรเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวอยู่เป็นประจำ ด้วยการใช้มอยส์เจอไรเซอร์ หรือไฮยารูรอน (Hyaluronic Acid)
ทำไมหน้าหมองคล้ำไม่หาย
หากใครที่รักษาปัญหาหน้าหมองคล้ำด้วยวิธีต่าง ๆ แล้วไม่ดีขึ้น อาจเกิดมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเรา เช่น ไม่ทาครีมกันแดด ดื่มน้ำน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือมีความเครียดมากเกิน ก็ส่งผลทำให้หน้าหมองไม่หายได้ รวมไปถึงปัญหาหน้าหมองคล้ำนั้นอาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น มีขนบนใบหน้า จึงต้องมีการกำจัดออกอย่างถูกวิธี
ข้อสรุป
ปัญหาหน้าหมองคล้ำ สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยภายในหรือปัจจัยภายนอก ดังนั้น ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุของปัญหา พร้อมมองหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับตนเอง แต่หากรู้สึกว่ารักษาด้วยวิธีไหนก็ไม่หาย แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางจะดีที่สุด เพื่อให้แพทย์ได้ประเมินปัญหาและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมต่อไป