Posts

กำจัดขนบนใบหน้าด้วย Diode Laser

เลเซอร์ขนหน้า คืออะไร ช่วยลดหน้าหมองคล้ำได้อย่างไร

ผิวหน้าหมองคล้ำ ไม่สดใส เป็นปัญหากวนใจของใครหลายคน ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อความหมองคล้ำนั้นก็มีอยู่มากมาย ตั้งแต่แสงแดด มลภาวะ ฝุ่นควัน ไปจนถึงปัญหาขนบนใบหน้า โดยเฉพาะ “ขนอ่อน ๆ บนใบหน้า” เมื่อดูรวม ๆ แล้ว จะส่งผลให้ผิวหน้าดูไม่เรียบเนียน ดูหมองคล้ำ ไร้ชีวิตชีวา เสียความมั่นใจ แถมยังทำให้เครื่องสำอางติดไม่ทนอีกด้วย การทำเลเซอร์ขนหน้า จึงกลายเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดขนบนใบหน้า แก้ปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำอย่างตรงจุด


 เลเซอร์ขนหน้าคืออะไร

เลเซอร์กำจัดขนบนใบหน้า คือ เทคนิคการใช้แสงเลเซอร์กำจัดขนบริเวณใบหน้าอย่างอ่อนโยน มีความแม่นยำสูง โดยแสงเลเซอร์จะถูกปล่อยออกมาเป็นลำแสงขนาดเล็ก ตรงเข้าทำลายรากขน โดยไม่ทำร้ายผิวบริเวณโดยรอบ ผลลัพธ์คือขนขึ้นช้าลง ขนบางลง ขนอ่อนนุ่มขึ้น ผิวเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น

โดยการทำเลเซอร์ขนหน้า จะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ดังนี้

  • กำจัดขนอ่อน : ขนอ่อนบนใบหน้าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวหน้าดูไม่เรียบเนียน ไร้ชีวิตชีวา เลเซอร์จะกำจัดขนอ่อนเหล่านี้ออกไป เผยผิวที่เรียบเนียน สว่างกระจ่างใส
  • กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว : แสงเลเซอร์มีความยาวคลื่นเฉพาะ ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกที่เสื่อมสภาพ เผยผิวใหม่ที่สดใส เรียบเนียน แก้ปัญหาหน้ามันและหน้าหมองคล้ำ
  • กระตุ้นคอลลาเจน : แสงเลเซอร์ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวหน้าเต่งตึง กระชับ เต็มไปด้วยความยืดหยุ่น
เลเซอร์ขนหน้า

 การเกิดขนบนใบหน้ามีสาเหตุจากอะไร

ขนบนใบหน้า ถือเป็นเรื่องปกติธรรมชาติที่พบได้ในทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่สำหรับบางคน ขนที่ขึ้นมากลับสร้างความกังวลใจ เพราะดูเข้ม หนา เสียความมั่นใจ และยังทำให้หน้าหมองคล้ำด้วย ซึ่งขนบนใบหน้านั้นเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็น

  1. พันธุกรรม

ปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการกำหนดลักษณะขนบนใบหน้าคือ พันธุกรรม หากคนในครอบครัวมีขนบนใบหน้าหนาและเข้ม ลูกหลานก็มีโอกาสที่จะมีลักษณะเช่นเดียวกัน ยีนบางชนิดส่งผลต่อการผลิตฮอร์โมนเพศชาย (androgen) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการควบคุมการเจริญเติบโตของขน รวมถึงขนบนใบหน้าด้วย

  1. ฮอร์โมน

ฮอร์โมนมีบทบาทสำคัญในการควบคุมการเจริญเติบโตของขน ซึ่งได้แก่ฮอร์โมนเพศชาย (androgen) จะส่งเสริมการเจริญเติบโตของขน ในขณะที่ฮอร์โมนเอสโตรเจน (estrogen) ยับยั้งการเจริญเติบโตของขน  ความไม่สมดุลของฮอร์โมน เช่น ในช่วงวัยรุ่น วัยหมดประจำเดือน หรือภาวะถุงน้ำรังไข่ (PCOS) ก็อาจส่งผลให้ขนบนใบหน้าหนาขึ้นได้

  1. ความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ

ในบางครั้ง ขนบนใบหน้าที่ดูหนาผิดปกติ อาจเกิดจากความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ เช่น โรคคุชชิ่ง (Cushing’s syndrome) หรือ ภาวะต่อมหมวกไตทำงานมากเกินไป (adrenal hyperplasia)


การทำเลเซอร์ขนหน้า เหมาะกับใคร 

เลเซอร์ขนหน้าเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาดังนี้

  • ผู้ที่มีขนเส้นอ่อน ๆ ขึ้นบนใบหน้าอย่างหนาแน่น
  • ผู้ที่มีผิวหน้าหมองคล้ำ รูขุมขนกว้าง
  • ผู้ที่ต้องการปรับผิวให้เรียบเนียน สว่างกระจ่างใส
  • ผู้ที่ต้องการกำจัดขนถาวร
  • ผู้ที่แต่งหน้าไม่ติดเนื่องจากมีขนบนใบหน้า

 การใช้เลเซอร์กำจัดขนหน้ามีแบบไหนบ้าง

เครื่องเลเซอร์ขนหน้าที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันนี้มีอยู่ 4 แบบด้วยกัน ได้แก่

  1. เครื่อง IPL (Intense Pulse Light)

เครื่องเลเซอร์ยอดฮิต ที่มีราคาจับต้องได้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีขนบางไปจนถึงปานกลาง IPL ใช้คลื่นแสงที่มีความเข้มสูง มีช่วงความยาวคลื่นที่หลากหลายยิงลงไปยังผิวเพื่อจับเม็ดสีเมลานินในรากขน ทำให้รากขนฝ่อ ผลลัพธ์คือ ขนขึ้นช้า บางลง และจางลง ข้อดีของ IPL คือค่อนข้างปลอดภัย เหมาะกับทุกสีผิว ยกเว้นผิวสีแทนมาก ๆ  แต่ข้อเสียคือต้องทำซ้ำบ่อยครั้ง ประมาณ 6-10 ครั้ง ขึ้นไปจึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน 

  1. เครื่อง YAG Laser

ตัวเลือกสำหรับคนที่มีขนเส้นใหญ่ เส้นหนา YAG  Laser ใช้คลื่นแสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นสูง จึงสามารถเจาะลงไปในชั้นผิวที่ลึกกว่า กำจัดขนระดับรากได้อย่างตรงจุด เหมาะกับผู้ที่มีขนสีเข้ม ผิวสีเข้มก็สามารถทำได้ ข้อดีของ YAG  Laser คือเห็นผลลัพธ์เร็ว ใช้เวลาทำน้อย แต่ข้อเสียคือราคาค่อนข้างสูง และอาจมีอาการเจ็บหรือแสบร้อนระหว่างทำ

  1. เครื่อง Diode Laser

เครื่องเลเซอร์ขนหน้ารุ่นใหม่ที่ได้รับความนิยมมาก Diode laser ใช้เลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นค่อนข้างสูง สามารถกำจัดขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับทุกสภาพผิว ทุกสีผิว และทุกสีขน ข้อดีของ Diode laser คือเห็นผลลัพธ์เร็ว ปลอดภัย มีอาการเจ็บน้อยกว่า YAG  Laser แต่ข้อเสียคือราคาค่อนข้างสูงเช่นกัน

  1. เครื่อง Alexandrite Laser

เครื่องเลเซอร์ขนหน้าที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ Alexandrite  Laser ใช้เลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นสูง  สามารถกำจัดขนได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ เหมาะกับผู้ที่มีขนเส้นเล็ก ข้อดีของ Alexandrite  Laser คือ เห็นผลลัพธ์เร็ว ปลอดภัย แต่ข้อเสียคือราคาค่อนข้างสูงและไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวสีเข้ม

Diode Laser กำจัดขนหน้า

ข้อดี – ข้อเสียของการกำจัดขนหน้า

ข้อดีของการกำจัดขนหน้า

  • ช่วยให้ใบหน้าเรียบเนียน ปัญหาขนหน้ารุงรังจะหมดไป ใบหน้าดูสะอาดสะอ้าน เรียบเนียน 
  • แต่งหน้าติดทน รองพื้นและแป้งติดผิวดี ไม่อุดตันรูขุมขน 
  • มั่นใจมากขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องขนบนใบหน้าหน้า ทำให้รู้สึกมั่นใจ กล้าถ่ายรูปมากขึ้น 
  • ใบหน้าดูสะอาด แก้ปัญหาหน้าหมองคล้ำ ไร้ขน ช่วยให้ดูอ่อนเยาว์ 

ข้อเสียของการกำจัดขนหน้า

  • ผิวบริเวณใบหน้ามีความบอบบาง การกำจัดขนอาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง แดง หรือคันได้ 
  • วิธีการกำจัดขนบางวิธี อาจทำให้เกิดขนคุดได้
  • วิธีการกำจัดขนบางวิธีอาจทำให้รู้สึกเจ็บ หรืออาจทำให้เกิดแผลได้
  • วิธีการกำจัดขนส่วนใหญ่ ให้ผลลัพธ์ไม่ถาวร ต้องมีการกำจัดซ้ำ

 การดูแลตัวเองหลังทำเลเซอร์ขนหน้า

เพื่อให้ผลลัพธ์ในการทำเลเซอร์ขนหน้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น หลังจากการทำเลเซอร์ ควรปฏิบัติตัวดูแลตัวเองดังนี้

  • งดการสครับผิวหน้า หรือการถู นวด เกาที่ใบหน้าเป็นเวลา 1 สัปดาห์หลังจากการทำเลเซอร์ขนหน้า
  • หลีกเลี่ยงการลงเล่นน้ำในสระที่มีคอลลีนเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการล้างหน้าและอาบน้ำด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน เพราะอาจจะทใำห้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้
  • ควรทาครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อช่วยความชุ่มชื้นให้กับผิว
  • หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรง และควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30+ ขึ้นไปเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด
  • งดการใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของสารผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA, BHA หรือ whitening เป็นเวลาอย่างน้อย 2-3 วัน
ดูแลตัวเองหลังทำเลเซอร์

 ข้อสรุป

การเลเซอร์ขนหน้า เป็นอีกหนึ่งวิธีการกำจัดขนบนใบหน้าที่ได้รับความนิยมสูง เพราะเป็นวิธีการกำจัดขนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด มีความปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง และยังทำให้ขนที่เกิดใหม่นั้นขึ้นช้า มีขนเส้นอ่อนลง และเกิดขึ้นน้อยลงไปในที่สุด จึงช่วยทำให้ลดปัญหาหน้าหมองคล้ำ หน้ามัน ทำให้ใบหน้าสะอาดและกระจ่างใสขึ้น แต่งหน้าติดทน และยังง่ายต่อการดูแลผิวอีกด้วย

หากใครที่สนใจเลเซอร์ขนหน้า แนะนำให้ศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจทำอย่างละเอียด รวมถึงปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะเพื่อผลลัพธ์ในการเลเซอร์ที่ดีที่สุด


เลเซอร์ขน

เลเซอร์ขน บอกลาปัญหาตุ่มหนังไก่ ช่วยให้ผิวเรียบเนียน จบปัญหาขนคุด

เลเซอร์ขน อีกหนึ่งหัตถการที่ได้รับความนิยมสูงมากโดยเฉพาะในหมู่สาวๆ เพราะเป็นวิธีการกำจัดขนที่ดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุด สามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ไม่ก่อให้เกิดปัญหาขนคุด ตุ่มหนังไก่ หรือผิวคล้ำเสียตามมา และที่สำคัญยังสามารถกำจัดขนได้ทุกส่วนบนร่างกายไม่ว่าจะเป็น เลเซอร์ขนรักแร้ ขนขา ขนหน้าแข้ง ขนบิกินี่ หรือจะกำจัดขนบนใบหน้าด้วยการทำเลเซอร์หน้าใสก็ได้เช่นเดียวกัน อีกทั้งในตอนนี้ได้มีเครื่องเลเซอร์มากมายหลายแบบให้เราได้เลือกใช้ตามสภาพผิวและเส้นขนของตัวเองอีกด้วย ในบทความนี้เราจึงจะพาสาวๆ ทุกท่านที่กำลังมองหาวิธีกำจัดขนที่มีประสิทธิภาพ ไปทำความรู้จักกับการเลเซอร์ขนว่าคืออะไร มีหลักการทำงานอย่างไร เครื่องเลเซอร์ชนิดใดได้รับความนิยม และต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล เราไปดูคำตอบในบทความนี้กันได้เลยค่ะ

เลเซอร์ขน คืออะไร

เลเซอร์ขน เป็นวิธีการกำจัดขนประเภทหนึ่งที่สามารถกำจัดขนถาวรได้ โดยเป็นการใช้พลังงานแสงเลเซอร์ที่มีความถี่สูง ยิงเข้าไปในบริเวณที่ต้องการกำจัดขน เพื่อทำลายบริเวณต่อมรากขน ซึ่งเป็นบริเวณที่เส้นขนนั้นเกิดขึ้นใหม่ได้เรื่อยๆ แต่เมื่อมันถูกทำลายไปก็จะทำให้ขนเกิดขึ้นได้น้อยลงและมีเส้นบางลง แต่ในขณะเดียวการยิงแสงเลเซอร์นั้นก็มีความปลอดภัยสูง จึงไม่ทำลายผิวหนังบริเวณข้างเคียง ไม่ก่อให้เกิดตุ่มหนังไก่หรือขนคุด ผิวเรียบเนียนขึ้น โดยจุดที่นิยมทำเลเซอร์ขน ได้แก่ บริเวณใต้วงแขน ขนขา ใบหน้า และการเลเซอร์บิกินี่

การทำงานของเลเซอร์กำจัดขนเป็นอย่างไร

หลักการทำงานของเลเซอร์ขน จะเป็นการปล่อยพลังงานแสงที่มีความถี่สูงลงไปทำลายบริเวณรากขน ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของเส้นขน ซึ่งเมื่อยิงเลเซอร์ลงไปแล้วจะเกิดเซลล์บริเวณรากขนซึ่งทำหน้าที่เป็นดูดรับพลังงานแสง เพื่อให้เปลี่ยนถ่ายเป็นพลังงานความร้อนเพื่อทำลายรากขนอย่างล้ำลึก แต่ในขณะเดียวกันก็จะไม่เป็นการทำลายผิวหนังบริเวณข้างเคียง จึงทำให้การเลเซอร์ขนมีผลข้างเคียงในการทำน้อยมากๆ

ซึ่งหลังจากที่ได้กำจัดขนไปแล้ว จะสังเกตได้เลยว่าผิวบริเวณนั้นจะเรียบเนียนขึ้น แต่เมื่อผ่านไปสักระยะก็จะมีเส้นขนบางๆ งอกขึ้นมาใหม่ เพราะโดยปกติแล้วเส้นขนจะมีช่วงเวลาที่งอกตัวและมีระยะพักตัวก่อนที่จะหลุดร่วงอย่างถาวร ดังนั้น การเลเซอร์ขนจึงจะต้องทำอย่างน้อย 4-6 ครั้งขึ้นไป เพื่อให้เห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนมากที่สุด

 รู้จักของระยะเส้นขน

โดยปกติแล้วเส้นขนของคนเราที่มีการงอกออกมานั้น จะสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระยะ ได้แก่ 

  • ระยะเติบโต (Anagen Phase)

เส้นขนระยะเติบโต สามารถพบได้ในร่างกายของเราได้มากถึง 80% ซึ่งเป็นระยะที่เส้นขนของเราอยู่ในช่วงการเจริญเติบโตแบบเต็มที่ ซึ่งเป็นสภาพขนที่สมบูรณ์และแข็งแรงมากที่สุด 

  • ระยะเสื่อมสภาพ (Cartagena Phase)

ระยะเสื่อมสภาพ เป็นเส้นขนที่อยู่ในช่วงหยุดเจริญเติบโตเพื่อเตรียมเข้าสู่ช่วงหลุดร่วงออกไป หากมีการเลเซอร์ขน เส้นขนของเราจะคงอยู่ในระยะเสื่อมสภาพเป็นเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ จึงจะค่อยๆ กลับมางอกใหม่ได้อีกครั้ง

  • ระยะเส้นขนหลุดร่วง (Telogen Phase)

ระยะสุดท้ายคือระยะเส้นขนหลุดร่วง หากมีการเลเซอร์ขนในระยะนี้ จะใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์จึงจะค่อยๆ กลับมางอกใหม่ได้อีกครั้ง

ระยะขน

เลเซอร์ขนที่ได้รับความนิยม

โดยปกติแล้วเครื่องเลเซอร์ขน จะมีอยู่ด้วยกันหลายประเภท ซึ่งก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป แต่สำหรับเครื่องเลเซอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจะมีอยู่ 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่

Diode Laser

Diode Laser เป็นเครื่องเลเซอร์ขนที่ทันสมัยและกำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ ด้วยการใช้เลเซอร์ที่มีคลื่นพลังงานอย่างหลากหลาย สามารถยิงกำจัดขนได้แบบถอนรากถอนโคน อีกทั้งยังสามารถลงลึกไปในเชิงผิวเพื่อกำจัดขนได้ถึงระดับผิวหนังส่วนลึก การกำจัดขนด้วย Diode Laser นิยมใช้คลื่นความยาวอยู่ที่ 800-1,350 nm ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บหรือทำลายชั้นผิวหนัง นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนังบริเวณที่เลเซอร์ให้กลับมากระจ่างใสและเรียบเนียนมากขึ้นอีกด้วย โดยวิธีการทำงาน จะเข้าไปจับเม็ดสีที่รากขนและระงับการทำงานของเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงรูขุมขน และปล่อยพลังงานความร้อนออกมาเพื่อทำลายรากขนให้เส้นขนหลุดร่วงออกมา

Diode Laser

nd: YAG laser

nd: YAG laser เป็นเครื่องเลเซอร์ขน ที่สามารถกำจัดขนบนร่างกายได้ทุกส่วนไม่ว่าจะเป็นขนรักแร้ ขนแขน หรือขนขา โดยไม่เกิดอันตรายต่อผิว สามารถใช้ได้ทุกสีผิวเนื่องจากเป็นเลเซอร์ที่มีความเข้มข้นสูง และมีความยาวของลำแสงถึง 1,064 nm จึงสามารถทำลายรากขนได้อย่างหมดจด อีกทั้งยังมี Dynamic Cooling Device ที่ทำให้ไม่รู้สึกแสบร้อนในขณะทำเลเซอร์ สามารถช่วยปรับผิวให้เรียบเนียน ลดปัญหาตุ่มหนังไก่และขนคุด

เลเซอร์ขนรักแร้

เลเซอร์ขน กำจัดบริเวณส่วนไหนได้บ้าง

บริเวณที่สามารถทำเลเซอร์ขน ได้ มีอยู่ด้วยกัน 6 บริเวณ ดังนี้

  • เลเซอร์รักแร้ : เป็นบริเวณที่คนนิยมกำจัดขนมากที่สุด เพราะเป็นวิธีการกำจัดขนที่ดีกว่าการถอนและโกน ไม่ทำให้เป็นตุ่มหนังไก่ เจ็บน้อย อีกทั้งช่วยแก้ปัญหารักแร้ดำ คล้ำ และยังลดกลิ่นกายได้อีกด้วย
  • เลเซอร์หน้าใส : การเลเซอร์หน้าใส เป็นวิธีการเลเซอร์ขนบนใบหน้า เพื่อกำจัดขนตามหน้าผาก บนใบหน้า ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียน ปรับผิวให้กระจ่างใสมากยิ่งขึ้น
  • เลเซอร์หนวด เครา : การเลเซอร์หนวด เครา สามารถทำได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเส้นหนวดแข็ง ดก ดำ โกนแล้วขึ้นมาใหม่เยอะขึ้นและแข็งขึ้น การเลเซอร์ขนหนวดจะทำให้เส้นขนบางลง และขึ้นน้อยลง
  • เลเซอร์ขนขา : เป็นการทำเลเซอร์เพื่อช่วยแก้ปัญหาขนหน้าแข้ง ขนขาเยอะและดก รวมไปถึงผู้ที่มีปัญหาขนคุดจากการโกนหรือแว็กซ์
  • เลเซอร์ขนแขน : บริเวณแขนก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่นิยมทำเลเซอร์ขน เพื่อแก้ปัญหาขนดก ขนยาว ขนคุดจากการแว็กซ์ หลังทำจะทำให้ผิวเรียบเนียน และกระจ่างใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
  • เลเซอร์บิกินี่ : ขนบิกินี่ เป็นอีกหนึ่งจุดที่สาวๆ นิยมทำกันมาก เพราะสาวๆ ที่ชอบใส่บิกินี่ต้องการที่จะเพิ่มความมั่นใจ ซึ่งบริเวณนี้ก็สามารถเลเซอร์ขนได้ เจ็บน้อย ให้ผิวที่เรียบเนียน และที่สำคัญยังลดกลิ่นอับชื้นได้ดีอีกด้วย
กำจัดขนส่วนไหนได้บ้าง

ความแตกต่างของเลเซอร์ขนและเลเซอร์ผิว

การทำเลเซอร์ขนและเลเซอร์ผิว ดูเหมือนจะไม่แตกต่างกันมาก เพราะเพียงแค่ปรับพลังงานเลเซอร์และความยาวคลื่นให้แตกต่างกันก็สามารถใช้เลเซอร์ในส่วนที่ต้องการได้แล้ว จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เครื่องเลเซอร์บางประเภทสามารถกำจัดขนและทำเลเซอร์หน้าใสได้ภายในเครื่องเดียว แต่ทางที่ดีที่สุดควรเลือกเครื่องเลเซอร์ให้เหมาะกับการทำหัตถการนั้นๆ โดยเราจะแบ่งการเลเซอร์ออกได้ ดังนี้

เลเซอร์ผิว

การเลเซอร์ผิว สามารถนำมาใช้แก้ปัญหาผิวได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็น แก้ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ หน้าหมองคล้ำ เลเซอร์หน้าใส เลเซอร์หลุมสิว กระชับรูขุมขน รวมไปถึงการลบรอยสักด้วย โดยสามารถแบ่งชนิดของเลเซอร์ออกย่อยๆ ได้อีก ดังนี้

  • เครื่องเลเซอร์ Q-Switch Laser นิยมใช้กำจัดปานดำ ไฝ ขี้แมลงวัน กระ และลบรอยสัก เนื่องจากเป็นเครื่องเลเซอร์ที่ใช้กำจัดเม็ดสีได้ดีและมีผลข้างเคียงน้อย
  • เครื่องเลเซอร์ CO2 laser นิยมใช้กำจัดฝ้า กระ จุดด่างดำ สิว หลุมสิว และสามารถกำจัดติ่งเนื้อหรือกระเนื้อได้อีกด้วย
  • เครื่องเลเซอร์ Pico laser นิยมใช้ลดฝ้า กระ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ผิวกระจ่างใสขึ้น รูขุมขนกระชับลง และที่สำคัญยังปรับพลังงานได้หลากหลายอีกด้วย
  • เครื่องเลเซอร์ Dual Yellow Lase นิยมใช้กำจัดรอยแผลเป็น ฝ้า กระ ลดเม็ดสีเมลานินได้ดี
  • เครื่องเลเซอร์ ND YAG Laser นิยมใช้ลดริ้วรอย ยกกระชับผิว กำจัดขนบนใบหน้า กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น อีกทั้งยังเป็นเครื่องเลเซอร์ที่สามารถใช้ได้ทั้งเลเซอร์หน้าใสและกำจัดขน

เลเซอร์ขน ไม่มีความแตกต่างจากการเลเซอร์ผิวมากนัก เพราะเป็นการใช้พลังงานแสงเหมือนกัน เพียงแค่นำไปใช้ทำลายรากขนให้ขนหลุดร่วงลงไป ด้วยการเพิ่มพลังงานและความยาวคลื่นเท่านั้น ซึ่งผลลัพธ์หลังทำก็ให้ผิวบริเวณนั้นๆ เรียบเนียน กระจ่างใส น่าสัมผัส

กำจัดขน

ข้อปฎิบัติตัวก่อนทำเลเซอร์ขน ควรทำอย่างไร

ข้อปฎิบัติตัวก่อนทำเลเซอร์ขนนั้นมีไม่มากเหมือนกับการทำเลเซอร์ผิว โดยมีวิธีการปฏิบัติตัว ดังนี้

  • งดสครับผิวบริเวณที่ต้องการกำจัดขนเป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมงเข้ารับการเลเซอร์ขน
  • ก่อนทำการเลเซอร์ขน จะต้องโกนขนออกเบาๆ ด้วยมีดโกนหรือจะแจ้งพนักงานให้โกนออกให้ก็ได้ เพราะการทำเลเซอร์ทั้งๆ ที่มีขนอยู่พลังงานจะไม่สามารถส่งผ่านไปยังตอขนเพื่อกำจัดรากขนออกมาได้
  • งดการถอนขนในบริเวณที่จะทำการเลเซอร์ขนเป็นเวลาอย่างน้อยประมาณ 3-4 สัปดาห์ เพราะจะทำให้เซลล์รากขนถูกกำจัดออกไปด้วย

ขั้นตอนการทำเลเซอร์ขน

ในขั้นตอนการทำเลเซอร์ขน จะใช้เวลาประมาณ 10-30 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำ โดยมีขั้นตอนการทำ ดังนี้

  1. เมื่อถึงเวลาเข้ารับบริการ แพทย์หรือพนักงานจะแจ้งผู้เข้ารับบริการก่อนแล้วว่าควรโกนขนมา แต่ถ้าหากไม่ได้โกนมาแพทย์ก็ทำการโกนออกให้ 
  2. จากนั้นก็จะเริ่มทำความสะอาดผิวในบริเวณที่จะทำการเลเซอร์ หากเป็นบริเวณที่บอบบางมากๆ หรือผู้เข้ารับบริการกลัวเจ็บ แพทย์ก็แปะยาชาหรือพ่นลมเย็นให้เพื่อบรรเทาอาการระคายเคือง
  3. จากนั้นแพทย์ก็จะทำการยิงเลเซอร์ลงบนบริเวณที่ต้องการกำจัดขนโดยทันที หากในระหว่างทำรู้สึกเจ็บมากจนทนไม่ได้ สามารถแจ้งแพทย์หรือพนักงานได้เลยทันที
  4. เมื่อทำการเลเซอร์ขนเสร็จเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะทาเจลหรือครีมบำรุงเพื่อลดอาการบวมและอักเสบจากแสงเลเซอร์ 
  5. หลังจากรักษาเสร็จสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่พยายามหลีกเลี่ยงแสงแดด หรืออยู่ในที่ที่อับและร้อน

ข้อปฎิบัติหลังตัวเลเซอร์ขน

หลังจากทำการเลเซอร์ขนมาแล้ว ควรมีการดูแลตัวเองให้ดีเพื่อช่วยลดอาการระคายเคืองในบริเวณที่ทำเลเซอร์ โดยมีข้อปฏิบัติตัว ดังนี้

  • หลังเลเซอร์ขนเสร็จ ควรหลีกเลี่ยงการฟอกสบู่หรือสครับผิวในบริเวณที่ทำเลเซอร์มาเป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อน ให้อาบน้ำในอุณหภูมิปกติแทน เพราะจะทำให้ผิวแห้งและขาดความชุ่มชื้น ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวบริเวณที่เลเซอร์เกิดอาการระคายเคืองได้
  • หลีกเลี่ยงการโกน ถอน หรือแว็กซ์ขนในบริเวณที่ทำการเลเซอร์ขนมา ควรรอให้เส้นขนหลุดร่วงไปเอง
  • ทาครีมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวลงบนบริเวณที่ทำเลเซอร์ขน
  • หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือสัมผัสกับแสงแดดโดยตรงเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์
  • งดการใช้ครีมหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA, BHA หรือแอลกอฮอลล์ เป็นเวลาอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ ในบริเวณที่ทำเลเซอร์

การทำเลเซอร์ขนทำไมต้องกำจัดหลายครั้ง

เชื่อว่าหลายคนคงสงสัยว่าการเลเซอร์ขนทำไมถึงต้องกำจัดหลายครั้ง จากข้างต้นที่เราได้กล่าวไปแล้วว่าเส้นขนของเรามีอยู่ด้วยกัน 3 ระยะ และแต่ระยะก็มีอายุที่ไม่เท่ากัน ซึ่งการเลเซอร์ขนในครั้งแรกจะต้องทำในขณะที่เส้นขนอยู่ในระยะ Anagen หรือระยะเติบโต เพื่อเป็นการทำรากขนและเป็นการลดการเกิดใหม่ของเส้นขน โดยวิธีนี้ก็ต้องทำหลายครั้งจึงจะเห็นผลชัดเจนว่าเส้นขนที่เกิดใหม่เริ่มบางลงแล้ว จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการทำเลเซอร์ขนจึงต้องกำจัดหลายครั้ง เพื่อเป็นการกำจัดขนถาวรได้ในที่สุด

โดยทั่วไปแล้ว การเลเซอร์ขนจะต้องทำอย่างอย่างน้อยประมาณ 4-6 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างประมาณ 1 เดือน เพื่อลดอัตราการการเกิดของเส้นขนใหม่

การทำเลเซอร์ขนมีผลข้างเคียงต่อผิวไหม

โดยทั่วไปแล้ว ผลข้างเคียงที่เราพบได้บ่อยจากการทำเลเซอร์ขน คือ มีอาการบวม แดง ซึ่งอาการเหล่านี้ก็จะค่อยๆ หายไปได้เอง แต่สำหรับผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นต่อผิวนั้นจะแตกต่างกันไปตามสภาพผิวของแต่ละบุคคล โดยอาจจะมีผลข้างเคียง ดังนี้

  • มีอาการระคายเคืองผิวหนัง แสบ คัน คล้ายๆ กับอาการที่ผิวสัมผัสแสงแดดหรือความร้อนเป็นเวลานาน และในบางรายอาจมีรูขุมขนอักเสบเล็กน้อยในช่วง 3-4 วันแรก แต่อาการเหล่านี้ไม่เป็นอันตรายและจะค่อยๆ หายไปได้เอง
  • ในการทำเลเซอร์ สีผิวบริเวณที่ทำเลเซอร์ขนนั้นเปลี่ยนไปได้ เช่นคล้ำขึ้น หรือมีสีขาวด่างๆ ซึ่งการโดนแสงแดดทั้งก่อนการรักษาและหลังการรักษานั้นก็มีส่วนที่ทำให้สีผิวเปลี่ยนไปได้เช่นกัน และสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งชั่วคราวและถาวร 

อย่างไรก็ตาม อาการเหล่านี้สามารถพบได้ทั่วไป แต่ก็เกิดขึ้นได้น้อยมากเช่นเดียวกัน หากพบว่ามีอาการบวม แดง หรือแสบอย่างรุนแรง ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อทำการรักษาโดยทันที

ผิวหนังอักเสบ

 

ใครที่ไม่เหมาะกับการทำเลเซอร์ขน

การทำเลเซอร์ขนสามารถทำได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีบุคคลบางกลุ่มที่ไม่สามารถทำเลเซอร์ขนได้ ได้แก่

  • ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับผิวหนัง เช่น โรคผิวหนังอักเสบ ผิวหนังติดเชื้อ โรคสะเก็ดเงิน โรคภูมิแพ้ผิวหนังขั้นรุนแรง หรือผู้ที่เพิ่งได้รับการผ่าเลเซอร์ขนจริงๆ ก็สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยก่อนได้
  • สตรีมีครรภ์และผู้ที่กำลังให้นมบุตร เพราะพลังงานเลเซอร์อาจส่งผลกระทบต่อเด็กในครรภ์ หรือต่อทารกได้

 คำถามที่พบบ่อย

 การทำเลเซอร์ขนอยู่ได้ถาวรไหม

การกำจัดขนด้วยวิธีการเลเซอร์ ถึงแม้จะทำให้เส้นขนที่เกิดใหม่นั้นบางลง สีอ่อนลง และเกิดช้าลง แต่ก็ไม่สามารถกำจัดรูขุมขนออกไปได้ ดังนั้น จึงมีโอกาสที่ขนจะกลับมาขึ้นใหม่ได้เรื่อยๆ แต่ขนที่ขึ้นใหม่นั้นจะใช้ระยะเวลาในการเกิดนานกว่าปกติ อีกทั้งยังบางและมีสีจางมากๆ จนทำให้แทบมองไม่เห็นค่ะ

 การทำเลเซอร์ขนควรเว้นระยะการทำนานแค่ไหน

หากต้องการเลเซอร์ขนให้เห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนมากที่สุด ควรจะใช้ระยะเวลาในการทำอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้งเป็นเวลา 4-6 ครั้งขึ้นไป เพื่อให้ประสิทธิภาพในการกำจัดขนนั้นเห็นผลชัดเจน แต่ถ้าครบ 4-6 ครั้งแล้วยังมีเส้นขนหลงเหลืออยู่ก็สามารถกลับมาเลเซอร์ใหม่ได้ประมาณ 2 เดือน ต่อ 1 ครั้งค่ะ

 การทำเลเซอร์ขนเจ็บไหม

การทำเลเซอร์ขน โดยทั่วไปแล้วจะมีระดับความเจ็บที่น้อยมาก-ปานกลาง ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล ในบางคนมีผิวที่แห้งมาก ก็อาจจะทำให้ผิวยิ่งระคายเคืองและแสบมาก แต่ก็อยู่ในระดับที่ทนได้ แต่ถ้าหากกังวลเรื่องความเจ็บ ก็สามารถแจ้งแพทย์ให้แปะยาชาก่อนทำการเลเซอร์ขนได้

 การทำเลเซอร์ขนบ่อยมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังได้ไหม

Diode laser และ YAG laser เป็นเครื่องเลเซอร์ที่แพทย์ผิวหนังนำมาใช้ในการเลเซอร์ขนในปัจจุบันนั้น เป็นเครื่องเลเซอร์ที่มีความปลอดภัยสูง จึงไม่ส่งผลอันตรายใดๆ ต่อคนไข้ DNA ไม่ถูกทำลาย เพราะผลข้างเคียงที่สามารถพบได้จริงๆ คืออาการบวม แดงเล็กน้อยเท่านั้น จึงไม่สามารถทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ค่ะ

ข้อสรุป

การเลเซอร์ขนเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมสูงไม่แพ้หัตถการอื่นๆ เลย เพราะมีประสิทธิภาพในการกำจัดขนได้จริง แตกต่างการกำจัดขนแบบอื่นอย่างสิ้นเชิง ให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ สามารถกำจัดขนได้หลายบริเวณ ขนที่เกิดใหม่ขึ้นช้าลง บางลง และสีจางลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ทำให้เกิดขนคุด และที่สำคัญยังมีความปลอดภัยสูง มีผลข้างเคียงน้อยมาก หากใครที่สนใจเลเซอร์ขน ก็สามารถศึกษาหาข้อมูลการรักษาจากคลินิกที่ได้มาตรฐาน ให้บริการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจและป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้

Diode Laser

ขนจ๋าพี่ลาก่อน เจาะลึก Diode Laser กำจัดขนดีจริงไหม

อีกหนึ่งวิธีการกำจัดขนรักแร้ที่มีประสิทธิภาพและได้รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้นั่นก็คือ การเลเซอร์รักแร้ ซึ่งการกำจัดขนรักแร้ด้วยวิธีการเลเซอร์ก็มีอยู่ด้วยกันหลายประเภท หนึ่งในนั้นก็คือ เครื่องเลเซอร์ประเภท Diode Laser เป็นเทคโนโลยีการกำจัดขนด้วยนวัตกรรมเลเซอร์ ที่มีคลื่นความยาวที่หลากหลาย นับเป็นเทคโนโลยีการกำจัดขนที่ดีที่สุดในขณะนี้ เนื่องจากสามารถกำจัดขนได้ลึกถึงระดับผิวหนังส่วนลึก กำจัดได้แบบถอนรากถอนโคน ซึ่งในบทความนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับการกำจัดขนด้วยเทคโนโลยี Diode Laser กันแบบละเอียดค่ะ


ทำความรู้จัก Diode Laser คืออะไร

Diode Laser เป็นเทคโนโลยีกำจัดขนด้วยการเลเซอร์ ที่ทันสมัยและกำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ ด้วยการใช้เลเซอร์ที่มีคลื่นพลังงานอย่างหลากหลาย สามารถยิงกำจัดขนได้แบบถอนรากถอนโคน อีกทั้งยังสามารถลงลึกไปในเชิงผิวเพื่อกำจัดขนได้ถึงระดับผิวหนังส่วนลึก โดยวิธีการทำงาน จะเข้าไปจับเม็ดสีที่ลากขนและระงับการทำงานของเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงรูขุมขน และยังสามารถปล่อยพลังงานความร้อนออกมาเพื่อทำลายรากขนนั้นๆ ทำให้เส้นขนหลุดร่วงออกมา

การกำจัดขนด้วยนวัตกรรมเลเซอร์  Diode Laser นิยมใช้คลื่นความยาวอยู่ที่ 800-1,350 นาโนเมตร ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บหรือทำลายชั้นผิวหนังบริเวณที่กำจัดขน นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนังบริเวณที่เลเซอร์ให้กลับมากระจ่างใส ไร้ขนและ ผิวเรียบเนียนมากขึ้นอีกด้วย

กำจัดขน

Diode Laser ช่วยเรื่องอะไรได้อีก

นอกจาก Diode Laser จะช่วยเรื่องการกำจัดขน แล้วยังสามารถแก้ปัญหาต่างๆได้อีก เช่น 

  • กำจัดขนส่วนอื่นในร่างกาย เช่น  ขนหน้าอก ขนแขน ขนขา ขนบิกินี่ ขนรักแร้ หรือขนหนวดเครา
  • ช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
  • เข้าไปกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ช่วยให้ผิวสว่างกระจ่างใส 
  • ช่วยแก้ปัญหาเรื่องขนคุด 
  • ลดปัญหาตุ่มหนังไก่ และปัญหาผิวดำคล้ำบริเวณที่มีขนขึ้น
  • ทำให้ขนเกิดช้าลง และหายไปอย่างถาวร หากทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง
Diode Laser

 ข้อดีของ Diode Laser 

เหมาะกับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็น ผิวคล้ำ ผิวดำแห้งเสีย ก็สามารถทำ Diode Laser ได้ อีกทั้งยังไม่เป็นการทำร้ายผิวอีกด้วย

  • ไม่ทำลายเม็ดสีเมลานินในผิวหนัง ทำให้คนผิวคล้ำที่มีเม็ดสีมากกว่าคนผิวขาวก็สามารถทำได้โดยไม่ทำให้ผิวไหม้
  • มีความอ่อนโยนต่อผิว มีความปลอดภัย ไม่ทำร้ายผิวและไม่เบิร์นผิว แต่จะเป็นการสร้างคอลลาเจนให้กับผิวขึ้นมาแทน
  • ความยาวคลื่นของเลเซอร์ Diode Laser สามารถผ่านลงไปถึงผิวหนังชั้นลึกได้ ทำให้สามารถกำจัดขนได้ลึกถึงโคน
  • Diode Laser มีระบบทำความเย็น จึงช่วยให้ไม่เกิดการบาดเจ็บบริเวณผิวหนังที่ทำเลเซอร์ และทำให้เกิดการระคายเคืองน้อยมาก
  • สามารถกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น กระชับรูขุมขนมากขึ้น และทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้นอีกด้วย

ใครที่เหมาะกับการทำ Diode Laser

  • ผู้ที่ต้องการกำจัดขนตามจุดต่างๆที่สร้างความรำคาญใจ หรือเป็นปัญหาในชีวิตประจำวัน
  • ผู้ที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเองและลดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์จากผลที่เกิดในที่ลับ 
  • ผู้ที่ต้องการกำจัดขน และต้องการให้ผลลัพธ์คงอยู่ยาวนาน
  • ผู้ที่มีปัญหาจากการโกนขนไม่ว่าจะเป็นตุ่มหนังไก่ ขนคุด หรือผิวอักเสบ 
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำบริเวณที่มีขนขึ้น 
  • การทำเลเซอร์ด้วย Diode Laser เหมาะกับคนที่มีผิวขาวหรือผิวสองสี มากกว่าคนที่ผิวแทนหรือผิวเข้ม

 ใครที่ไม่เหมาะกับการทำ Diode Laser

  • ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับผิวหนัง เช่น ภูมิแพ้ผิวหนัง โรคผิวหนังอักเสบ เป็นต้น เพราะการเลเซอร์รักแร้อาจส่งผลโดยตรงเกี่ยวกับผิวหนัง ทำให้ผิวบางและอักเสบได้ง่าย
  • สตรีมีครรภ์ หรือผู้ที่อยู่ในระหว่างการให้นมบุตร
  • ผู้ที่ไม่สามารถเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องได้ เพราะการเลเซอร์รักแร้ ด้วย Diode Laser จะต้องอาศัยการรักษาในระยะยาวจึงจะเห็นผล
  • ผู้ที่มีสิวอักเสบ สิวหนอง ในบริเวณที่ต้องการเลเซอร์
  • ผู้ที่มีแผลสดหรือแผลผ่าตัดที่ยังไม่ครบ 6 เดือน ในบริเวณที่ต้องการเลเซอร์

ข้อปฎิบัติตัวก่อนทำ Diode Laser ควรทำอย่างไร

  • งดทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือออกแดดเป็นระยะเวลานาน อย่างน้อยก่อนทำDiode Laser ประมาณ 1 สัปดาห์ เพราะอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองในระหว่างการทำเลเซอร์ได้ง่าย
  • ห้ามกำจัดขนด้วยการถอนหรือแว็กซ์ก่อนทำการเลเซอร์ เนื่องจากเราจะต้องทำการรักษารากขนเอาไว้เพื่อทำการเลเซอร์ หากกำจัดขนก่อนไปทำ ก็จะทำให้การเลเซอร์นั้นไม่ได้ประสิทธิภาพ และอาจทำให้เกิดอาการรูขุมขนอักเสบได้อีกด้วย
  • งดทำทรีตเมนท์ผิว การสครับผิวในบริเวณที่จะทำเลเซอร์ รวมไปถึงการงดการใช้สบู่ ครีม หรือโรลออนที่มีส่วนประกอบของ AHA หรือกรดวิตามินเอ เนื่องจากอาจทำให้ผิวอ่อนแอก่อนทำเลเซอร์ได้ 
  • หากต้องการทำเลเซอร์ขนบิกินี่หรือบราซิลเลี่ยน ควรทำหลังประจำเดือนหมดประมาณ 5-7 วัน เพื่อหลีกเลี่ยงอาการระคายเคืองของผิว

 ขั้นตอนการทำ Diode Laser มีอะไรบ้าง

ก่อนเข้ารับบริการกำจัดขนด้วย Diode Laser ผู้เข้ารับการรักษาควรทำการปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้งว่ามีความเหมาะสมกับเลเซอร์ชนิดนี้หรือไม่ และหากมีความผิดปกติเกี่ยวกับผิวหนังให้แจ้งแพทย์ก่อน เพื่อทำการรักษาอาการผิวหนังให้หายดีก่อนการทำเลเซอร์ รวมถึงแพทย์จะได้พิจารณาเลือกการเลเซอร์ที่เหมาะสม โดยหัตถการการทำเลเซอร์ด้วย Diode Laser มีขั้นตอนดังนี้

  1. แพทย์จะทำการโกนขนบริเวณที่ต้องการเลเซอร์ออก
  2. จากนั้น จะทำการแปะหรือทายาชาในบริเวณที่ต้องการทำเป็นเวลาประมาณ 30 นาที
  3. เมื่อครบ 30 นาทีหรือยาชาเริ่มออกฤทธิ์แล้ว แพทย์จะทำการปรับเครื่องมือให้ตรงกับบริเวณที่มีขน และยิงเลเซอร์ลงบนผิวเพื่อกำจัดขน โดยจะใช้ระยะเวลาประมาณ 10-30 ขึ้นอยู่กับลักษณะของขนและบริเวณที่กำจัดขน
  4. หลังจากทำการยิงเลเซอร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะทาครีมบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้น เพื่อบรรเทาอาการระคายเคืองหลังจากการทำ Diode Laser
กำจัดหนวด

ผลข้างเคียงหลังทำ Diode Laser ที่อาจจะเกิดขึ้นได้

Diode Laser เป็นการกำจัดขนที่ได้ผลลัพธ์ในระยะยาว แต่อาจจะมีผลข้างเคียงหลังทำได้เล็กน้อย เช่น

  • อาจจะมีอาการบวมแดงเล็กน้อย ซึ่งเป็นผลข้างเคียงปกติและสามารถหายไปได้เองภายใน 1-2 วัน หากรู้สึกปวดสามารถประคบเย็นหรือกินยาเพื่อบรรเทาอาการได้
  • ผิวบริเวณที่ทำการเลเซอร์ขนอาจจะไหม้ได้เล็กน้อย แต่จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก
  • สีผิวในบริเวณที่ทำการเลเซอร์ขน อาจเข้มขึ้นได้ แต่ก็จะสามารถหายไปได้เอง 
หลังทำเลเซอร์

คำถามที่พบบ่อย

 การทำ Diode Laser เจ็บไหม

การทำเลเซอร์ Diode Laser มีระบบทำความเย็น จึงช่วยให้ไม่เกิดการบาดเจ็บบริเวณผิวหนังที่ทำเลเซอร์ และทำให้เกิดการระคายเคืองน้อยมาก ฉะนั้นแล้วคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บหรือแสบบริเวณผิว อีกทั้งยังไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวแต่อย่างใด แค่จะได้รู้สึกถึงความอุ่นที่ผิวในระหว่างการยิงเลเซอร์เท่านั้น

 การทำ Diode Laser ทำไมต้องกำจัดหลายครั้ง

การกำจัดขนด้วย Diode Laser จะทำให้เกิดผลเส้นใหม่ขึ้นมาช้ามากๆ หลังจากการทำ 3-5 ครั้งขึ้นไป หลังจากนั้นจะรู้สึกได้เลยว่าเส้นขนได้หายไปอย่างถาวรหากทำต่อเนื่อง แต่ในทางกลับกันหากหยุดทำการเลเซอร์ไปในระยะเวลานาน ต่อมรากขนก็จะสามารถกลับมาสร้างเส้นขนใหม่ได้เหมือนเดิม เพราะฉะนั้นควรมีการทำเลเซอร์อย่างต่อเนื่องจึงจะเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนมากที่สุด

 การทำ Diode Laser ควรทำห่างกันนานแค่ไหน

การทำDiode Laser  จะต้องมีการเว้นระยะในการทำ  4-6 สัปดาห์ต่อครั้ง เนื่องจากในช่วงระยะเวลานี้เป็นระยะเวลาของการผลัดเซลล์ผิวใหม่ โดยขนจะเริ่มหลุดร่วงตั้งแต่สัปดาห์แรกหลังจากการทำในทันที และภายใน 2 ถึง 4 สัปดาห์ก็จะมีเส้นขนอ่อนเกิดขึ้นมาใหม่ ดังนั้น ควรเว้นระยะประมาณ 4-6 สัปดาห์ แต่อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ก็จะขึ้นอยู่กับสภาพเส้นขนของแต่ละบุคคลออกไปด้วย


ข้อสรุป

Diode Laser เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการกำจัดขน เนื่องจากเลเซอร์นั้นมีความยาวคลื่นที่หลากหลายจึงเหมาะกับทุกสภาพผิว อีกทั้งยังมีความอ่อนโยนต่อผิวสูงมาก ไม่มีความรู้สึกเจ็บหรือระคายเคือง นอกจากนี้การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ Diode Laser ยังทำให้เห็นผลได้ตั้งแต่ในครั้งแรกและยาวนานมากกว่าการกำจัดขนด้วยการเลเซอร์แบบอื่นๆ ที่สำคัญควรทำตามคำที่แพทย์แนะนำด้วยการรักษาอย่างต่อเนื่อง จะทำให้เห็นผลดีที่สุด และจะช่วยให้กำจัดขนออกไปได้อย่างถาวร