กระเนื้อคืออะไร

ทำความรู้จัก กระเนื้อคืออะไร? รักษาอย่างไรได้บ้าง?

กระเนื้อเป็นการเจริญเติบโตของเนื้องอกบนผิวหนังที่ไม่เป็นอันตรายถึงขั้นเป็นมะเร็งผิวหนัง มักปรากฏในวัยกลางคน เมื่ออายุมากขึ้นก็มีโอกาสที่จะเป็นกระเนื้อสูงขึ้นด้วย

แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะว่าบทความนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักว่ากระเนื้อเกิดจากอะไร กระเนื้อรักษาได้อย่างไร ตลอดจนควรรักษาที่ไหนดี รับรองว่าไม่มีปัญหาเรื่องนี้มากวนใจ


กระเนื้อคืออะไร?

กระเนื้อคือ เนื้องอกที่เกิดขึ้นบนผิวหนัง คล้ายกับไฝที่ไม่เป็นอันตราย โดยส่วนใหญ่ กระเนื้อมักพบในวัยกลางคนจนถึงผู้สูงอายุ อาจเกิดตามบริเวณใบหน้าจนกลายเป็น “กระเนื้อที่หน้า” หรือบางรายเกิดบริเวณใต้ตาหรือเรียกว่า “กระเนื้อใต้ตา” 

อย่างไรก็ดี กระเนื้อไม่เป็นอันตราย เนื่องจากเป็นการเจริญเติบโตของผิวหนังจนเป็นเนื้องอก แต่ไม่ถึงขั้นกับเรียกว่ามะเร็ง เช่นเดียวกับไฝและหูดก็นับว่าเป็นเนื้องอกบนผิวหนังด้วย นับว่าเป็นกลุ่มของเซลล์พิเศษบนผิวหนังชั้นนอก ซึ่งเป็นชั้นนอกของผิวหนัง ไม่ถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนัง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องรักษาก็ได้ แต่หากใครที่รู้สึกว่ากระเนื้อทำให้เสียความมั่นใจ ก็มีวิธีสามารถรักษาง่ายๆ 


กระเนื้อเกิดจากอะไร?

กระเนื้อเกิดจากการโดนรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงแดดสะสมเป็นเวลานานหลายปี โดยจะมีลักษณะเป็นตุ่ม ทำให้ผิวบริเวณนั้นมีความขรุขระ ไม่เรียบเนียน และมีสีที่แตกต่างกันได้ตั้งแต่สีน้ำตาลอ่อนจนกระทั่งสีดำ พบได้บ่อยในผู้ที่มีกิจกรรมกลางแจ้ง ผู้สูงอายุ หรือในบางเชื้อชาติจะพบได้บ่อยกว่าตั้งแต่อายุน้อย


ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นกระเนื้อ

แม้ว่าจะไม่เป็นอันตราย แต่กระเนื้อก็สามารถเกิดได้กับทุกคน แต่โดยทั่วไปแล้ว บุคคลดังต่อไปนี้มีโอกาสเป็นกระเนื้อสูงกว่ากลุ่มอื่นๆ 

1. ผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป

กระเนื้อไม่ค่อยปรากฏในคนที่อายุน้อย แต่มักจะเริ่มปรากฏในวัยผู้ใหญ่กลางคนมากกว่า เนื่องจาก โดนรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงแดด สะสมเป็นเวลานานหลายปี ซึ่งจากการศึกษาพบว่าคนอายุ 50-70 ปี มีกระเนื้อที่หน้าหรือบริเวณใต้ตาถึง 75% 

2. ในครอบครัวที่มีคนเป็นกระเนื้อ

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม กระเนื้อสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ เพราะฉะนั้นแล้วครอบครัวไหนที่มีคนในครอบครัวเป็นกระเนื้อ ก็มีโอกาสสูงที่จะเป็นกระเนื้อด้วย

3. คนผิวแพ้ง่าย 

นอกจากอาการระคายเคือง สิวอักเสบ สิวอุดตัน หรือผิวหน้าลอกที่เป็นปัญหาสำหรับคนผิวแพ้ง่ายแล้ว คนผิวแพ้ง่ายยังมีโอกาสเป็นกระเนื้อมากกว่าคนที่ผิวแข็งแรง เนื่องจากโครงสร้างของผิวที่ไม่สามารถทนกับแสงแดดได้นานกว่าคนผิวปกติ


อาการของกระเนื้อเป็นอย่างไร?

โดยปกติแล้วกระเนื้อจะไม่มีอาการเจ็บปวดหรือไม่มีอาการรุนแรง ส่งผลกระทบประจำวันมากกนัก  แต่พบว่าผู้ที่มีกระเนื้อบางส่วนมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย ดังนี้

  • กระเนื้อที่หน้าเกิดอาการคัน
  • การระคายเคืองจากการเสียดสี
  • เลือดออก

หากอาการเหล่านี้รบกวน รุนแรงขึ้น ตลอดจนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ก็สามารถรักษาด้วยวิธีต่างๆ เพื่อกำจัดหรือรักษากระเนื้อออกไปได้


การวินิจฉัยกระเนื้อ

การวินิจฉัยกระเนื้อทำอย่างไร กระเนื้อรักษาอย่างไรได้บ้าง?

ในเบื้องต้น แพทย์จะทำการวินิจฉัย ซักถามถึงประวัติส่วนตัว ประวัติพันธุกรรม จากนั้นจะวินิจฉัยอย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นเพียงกระเนื้อในรูปแบบเนื้องอก ไม่ใช่มะเร็ง

เมื่อชัดเจนแล้วว่าเป็นกระเนื้อ คุณสามารถรักษาหรือกำจัดออกได้โดยใช้วิธีการดังต่อไปนี้ 

1. Cryotherapy

กระเนื้อรักษาด้วย Cryotherapy ถือว่าเป็นการรักษาด้วยไอเย็น ส่งผลให้ผิวหนังชาแล้วใช้ไนโตรเจนเหลว เพื่อทำให้การเจริญเติบโตของกระเนื้อหยุดนิ่ง ซึ่งการรักษาด้วยวิธีนี้จะทำให้หลุดออกภายในสองสามวันหรือหลายสัปดาห์ แต่ผลข้างเคียงของวิธีนี้ คือ สีผิวบริเวณที่รักษาอาจคล้ำขึ้นเล็กน้อย

2. Electrodessication/Curettage

การรักษาด้วยวิธีนี้เป็นการขูดกระเนื้อ โดยใช้เครื่องมือขูดร่วมกับการจี้ไฟฟ้า แพทย์จะขูดผิวหนังแต่ละชั้นออกแล้วจี้ด้วยความร้อน เพื่อให้กระเนื้อหลุดออก จากนั้นก็ขูดด้วยเครื่องมืออีกครั้ง เพื่อไม่ให้กระเนื้อขึ้นมาอีก ผลข้างเคียงของวิธีการรักษาคือ มีรอยแผลเป็นทิ้ง

3. Shave Excision

Shave Excision หรือการใช้มีดโกน จะใช้มีดโกนผ่าเป็นชั้นบางๆ โดยเริ่มจากการทำให้ผิวหนังชา จากนั้นจะใช้มีดโกนผ่าออกอย่างระมัดระวัง และทำให้ผิวหนังข้างใต้เรียบด้วยการขูดกระเนื้อออก

4. Laser Therapy

เลเซอร์เป็นทางเลือกแทนการผ่าตัด โดยการใช้ความร้อน เพื่อหยุดการเจริญเติบโตกระเนื้อ เป็นการฆ่าเชื้อบาดแผลและการปิดผนึกเนื้อเยื่อทั้งหมดในครั้งเดียว การรักษาด้วยวิธีเลเซอร์จะรวดเร็วที่สุด อาจะมีอาการเจ็บเล็กน้อย แต่ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด

กระเนื้อใต้ตาหรือบริเวณใบหน้าไม่มีอันตราย แต่หากมีปริมาณมากจนเกินไปจนทำให้สูญเสียความมั่นใจ และมีผลต่อการดำรงชีวิต หรือหากกระเนื้อมีการเปลี่ยนแปลงจากปกติ เช่น ปริมาณมากขึ้นอย่างรวดเร็ว รูปร่างหรือสีเปลี่ยนไป ควรพบแพทย์ผิวหนังเพื่อวินิฉัยวิธีการรักษา


ใครบ้างที่มีโอกาสเป็นกระเนื้อ

การป้องกันการเกิดกระเนื้อทำได้อย่างไร?

กระเนื้อเกิดจากสาเหตุหลักๆ คือ ธรรมชาติอย่างแสงแดด จึงป้องกันได้ยาก หรือในบางสาเหตุก็มีความเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่สามารถหาวิธีป้องกันได้ 

อย่างไรก็ดี ยังสามารถลดความเสี่ยงการเกิดกระเนื้อได้โดยหลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดด ดังนี้

  • กางร่มเมื่อออกแดด 
  • สวมเสื้อผ้ามิดชิด
  • สวมหมวกและแว่นดำเพื่อป้องกันแสงแดด 
  • หลีกเลี่ยงการตากแดดในช่วงที่แดดแรง
  • ทาครีมกันแดดที่มี SPF 50 เป็นอย่างน้อย เพื่อปกป้องผิวจากรังสียูวี

ข้อสรุป

สำหรับคนที่มีกระเนื้อที่หน้า กระเนื้อบริเวณต่างๆ ของร่างกาย ตลอดจนกระเนื้อใต้ตา อย่าได้กังวลใจไป เพราะกระเนื้อไม่ได้เป็นอันตราย แต่อาจจะสร้างความไม่มั่นใจให้หลายๆ คนที่มีก้อนเนื้อมางอกขึ้นอยู่ตามร่างกายของตัวเอง

ถ้าหากว่าใครกำลังสงสัยว่ากระเนื้อรักษาอย่างไร และอยากกำจัดออก สามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สอบถามเกี่ยวกับรักษา ประเมินความรุนแรง ตลอดจนจองคิวรักษากระเนื้อจาก Aya clinic ที่มีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่เพรียมพร้อมต่อการรักษากระเนื้อ เพียงแอดไลน์  @ayaclinic หรือโทร 090–970-0447 ก็ได้เช่นกัน


เอกสารอ้างอิง

Cleveland Clinic medical professional. (2021). Seborrheic Keratosis. Retrieve from https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/21721-seborrheic-keratosis